ใครเห็นก็ว่าตาย กระบะชนท้ายรถบรรทุก คนขับสาธุบารมีหลวงพ่อ 2 องค์ ช่วยให้รอดชีวิต ผ่อนหนักเป็นเบา
เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ร.ต.อ.วรุตม์ ภูมิภักดิ์ รองสว.สอบสวนภส.คลองหลวง รับแจ้งมีอุบัติเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดค้างภายในยานพาหนะ ที่เกิดเหตุถนนเลียบกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 กม.16 มุ่งหน้าบางปะอิน ก่อนถึงปั้มน้ำมันบางจากเล็กน้อย ต.คลองสี่ อ.คลองหลวง จงปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงประสานงานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยรถกู้ชีพ อบต.คลองสี่ ตำรวจจราจร
ที่เกิดเหตุช่องทางขวาสุดพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีโก้สีดำหมายเลขทะเบียน 6318 กทม.ฝั่งคนขับชนติดอยู่กับท้ายรถบรรทุกหกล้อแบบตู้ทึบยี่ห้ออีซูซุสีขาวหมายเลขทะเบียน 84-1461 สมุทรปราการ ภายในห้องโดยสารรถยนต์กระบะพบผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากถูกคอนโซลกดทับที่ขาทั้งสองข้างทราบชื่อต่อมา นายสันติสุข อายุ 36 ปี
อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูใช้อุปกรณ์ตัดถ่างให้ความช่วยเหลือก่อนนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาได้ทำการปฐมพยาบาล เบื้องต้นมีอาการปวดขาข้างขวาและบาดแผลเล็กน้อยที่ใบหน้าแต่ตัวรถเสียหายมาก
สอบสวนเบื้องต้นนายสันติสุข ผู้ขับขี่ให้การว่า ตนเองขับรถกำลังกลับบ้านพักเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถด้านซ้ายได้เบี่ยงออก ตนจึงหักหลบแล้วไปชนรถคู่กรณีที่จอดอยู่ไหล่ทางด้านขวาสุดจนได้รับความเสียหายและได้รับบาดเจ็บ โดยเชื่อว่าพุทธคุณของหลวงปู่ทวดและหลวงพ่อปลดหนี้คุ้มครอง ทำให้รอดจากอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งนี้มาได้
ทางด้านนายสมพร อายุ 42 ปี ให้การว่าตนเองพร้อมคนงานรวม 3 คน ขับรถบรรทุกหลอดซิลิโคนจาก จ.สมุทรปราการ เพื่อไปส่งที่บริษัทย่าน อ.หนองแค จ.สระบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ กำลังจอดรถด้านขวาสุดเพื่อลงไปซื้อข้าวรับประทานแต่ยังไม่ทันลงจากรถก็มีรถยนต์มาชนด้านท้ายอย่างแรงจึ งรีบแจ้งตำรวจเพื่อประสานกู้ภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับถนนเลียบกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 มีอุบัติเหตุบ่อยครั้งเพราะมีรถยนต์จอดซื้อของไหล่ทางด้านขวาสุด แต่เจ้าหน้าที่มีการติดป้ายห้ามไว้ชัดเจนแต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนจนเกิดอุบัติเหตุ
ร.ต.อ.วรุตม์ ภูมิภักดิ์ รองสว.สอบสวนภส.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุบันทึกภาพเป็นหลักฐานสอบปากคำคู่กรณีและพยาน เบื้องต้นประสานยกรถเข้ายกรถที่ประสบเหตุเข้าเก็บรักษาและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทางกฏหมายต่อไป