ใครยังไม่ได้เงินมาทวง! บิ๊กฮง นายกสอยคิว แจงปมค้างจ่ายเงินนักกีฬา

Home » ใครยังไม่ได้เงินมาทวง! บิ๊กฮง นายกสอยคิว แจงปมค้างจ่ายเงินนักกีฬา


ใครยังไม่ได้เงินมาทวง! บิ๊กฮง นายกสอยคิว แจงปมค้างจ่ายเงินนักกีฬา

สมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย จัดการประชุมวิสามัญ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2565 ที่ภัตตาคารโฮคิทเช่น พระราม 3 เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยมีคณะกรรมบริหารสมาคมฯ พร้อมด้วยตัวแทนสโมสรสมาชิกจำนวน 13 สโมสรจากทั้งหมด 15 สโมสร เข้าร่วมประชุม ซึ่งมีวาระสำคัญของการประชุมคือการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยคนใหม่แทนนายกสมาคมและคณะกรรมการบริหารชุดเดิมที่กำลังจะหมดวาระลง

เข้าสู่วาระการเลือกตั้ง ซึ่งมี นางสาวกมลวรรณ สุทธิบุตร หัวหน้างานทะเบียนสมาคมกีฬาประจำกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายจามร จามรี นิติกร 3 งานทะเบียนสมาคมกีฬาประจำกรุงเทพมหานคร และ นายณัฐพงษ์ อ้วงเฮง ผู้ช่วยปฏิบัติงาน งานทะเบียนสมาคมกีฬาประจำกรุงเทพมหานคร เป็นตัวแทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทยร่วมเป็นสักขีพยานการเลือกตั้ง

ขั้นตอนการเลือกตั้งเกิดเหตุความล่าช้าขึ้นด้วยปัญหาเรื่องผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง เนื่องด้วยคณะกรรมการบริหารชุดล่าสุดได้หมดวาระลงไปเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงได้ สิทธิ์ออกเสียงทั้งหมดจึงตกไปที่ตัวแทนสโมสรสมาชิกของสมาคมที่มีทั้งหมด 15 สโมสรเท่านั้น ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้มีมาร่วมประชุมทั้งหมด

จากนั้นได้มีการเสนอชื่อ พล.ต.ต.ดิษทัต ภูริปโชติ อุปนายก และเลขาธิการสมาคม ทำหน้าที่เป็นประธานการเลือกตั้ง แต่ได้มีสโมสรสมาชิกลุกขึ้นสอบถามว่า การประชุมครั้งนี้ระเบียบข้อบังคับไม่มีความชัดเจน ทำให้ พล.ต.ต.ดิษทัต ชี้แจงว่า ได้สอบถามกับทาง กกท. โดยตลอด และยืนยันได้ทำตามระเบียบข้อบังคับทุกขั้นตอน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้มีคู่แข่ง และไม่เหมือนในอดีตยุค นายสินธุ พูนศิริวงศ์ ทำให้มีผู้จับจ้องตั้งข้อสังเกต หลังจากนี้ในอนาคตหากได้ทำอย่างที่ต่อก็จะทำให้ระเบียบข้อบังคับถูกต้องชัดเจนแน่นอน

หลังจากนั้นที่ประชุมได้มีการแย้งว่า คณะกรรมการบริหารสมาคมหมดวาระลงไปเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมาแล้ว ทำให้คณะกรรมการบริหารสมาคม 18 ท่านไม่มีสิทธิออกเสียง และได้มีการถกเถียงเรื่องจำนวนผู้ที่มีสิทธิลงคะแนนเสียง ซึ่งได้ข้อสรุปว่า สามารถเป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมได้ แต่จะต้องเป็นได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทน 2 ใน 3 ที่ได้รับการมอบอำนาจจากสโมสรสมาชิกให้เป็นตัวแทนมาทำหน้าที่โหวต ส่งผลทำให้มีจำนวนผู้มีสิทธิโหวตได้ 14 สโมสรจากทั้งหมด 15 สโมสร และทาง กกท.ได้ตรวจสอบสมาชิกภาพของสโมสรที่มีสิทธิโหวต

ทั้งนี้จากการตรวจสอบมีบางสโมสรส่งหนังสือมอบอำนาจไม่ครบ และมีสโมสรส่งหนังสือมาครบเพียง 3 สโมสรเท่านั้น ซึ่งจากการหารือกับทาง กกท. ระบุว่า ให้มีการจัดการเรื่องเอกสารหนังสือมอบอำนาจให้ถูกต้องครบถ้วนก่อน และให้มีการกำหนดวันในการจัดประชุมเลือกตั้งอีกครั้ง เนื่องจากหากตรวจสอบหนังสือมอบอำนาจแล้วไม่ครบองค์ประชุมจะถือว่าการประชุมวันนี้ไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม จะต้องขอการรับรองจากที่ประชุม ซึ่งปรากฏว่า ที่ประชุมยกมือรับรอง 10 จากทั้งหมด 15 เสียง จึงต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อนภายใน 30 วัน และจะมีการส่งหนังสือเชิญไปยังสโมสรสมาชิกต่อไป

นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งหมดวาระดำรงตำแหน่งลงกล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า การเลือกตั้งในวันนี้ได้มีความเข้าใจผิดว่าในวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการดำรงตำแหน่ง แต่ในข้อกฎหมายที่ทางตัวแทนของการกีฬาแห่งประเทศไทยได้แจ้งว่าคณะกรรมการบริหารชุดเก่าได้หมดวาระลงตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา และในวันนี้เป็นเพียงการรักษาการตำแหน่งเดิม นั่นทำให้คณะกรรมการชุดเดิมไม่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงจึงเหลือเพียงตัวแทนสโมสรสมาชิกของสมาคมทั้ง 15 สโมสรเท่านั้น แต่เอกสารการมีสิทธิ์เป็นผู้แทนสโมสรเข้าร่วมการเลือกตั้งนั้นในวันนี้มีเพียง 3 สโมสรเท่านั้นที่มีเอกสารรองรับครบถ้วน นั่นทำให้ในที่ประชุมจึงได้มีมติให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนเป็นเวลา 30 วันตามข้อกำหนดที่ทางการกีฬาแห่งประเทศไทยได้แจ้งไว้ เพื่อให้ตัวแทนสโมสรที่มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ไปจัดการเอกสารต่างๆ ให้ครบอย่างโปร่งใสเสียก่อน

ขณะที่ประเด็นกระแสในโลกโซเชียลที่มีการโจมตีมายังสมาคมฯ เรื่องของการไม่จ่ายเงินรางวัลแก่นักกีฬาในรายการแข่งขันในประเทศนั้น นายสุนทร กล่าวว่า เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดในโซเชียลเป็นการว่าร้ายให้แก่สมาคมทั้งนั้น ในที่นี้มีนักกีฬาหรือผู้ฝึกสอนของนักกีฬาคนไหนที่ยังไม่ได้รับเงินรางวัลสามารถเรียกมาคุยต่อหน้าได้เลย ตนมองว่านี่เป็นเรื่องของยูทูบเบอร์หรือผู้ที่ไม่หวังดีต่างๆ ในโซเชียลพยายามสร้างกระแสโจมตีมาตลอด ในช่วงระหว่างที่ตนนั่งตำแหน่งบริหารนั้นตนทำงานอย่างทุ่มเทและจริงใจ ด้วยความซื่อสัตย์ ตนเงียบมาตลอดและไม่เคยตอบโต้ เพราะตนมองว่าหากไปตอบโต้มันจะยิ่งเป็นการทำร้ายวงการสนุกเกอร์ของเรา ตนบอกได้เลยว่าเงินรางวัลต่างๆ ตนจ่ายครบหมดทุกอย่าง ทั้งเรื่องของเงินเก็บตัวนักกีฬาและเงินรางวัลของนักกีฬาล้วนเป็นเงินส่วนตัวของตนเกือบทั้งหมด เอาแค่ในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา สมาคมฯ จัดแข่งขันมาทั้งหมดมากกว่า 10 รายการ ทางสมาคมฯ ยังไม่ได้รับเงินสนับสนุนแม้แต่บาทเดียว เงินที่นักกีฬาได้รับไปก็เป็นเงินของตนเองที่ออกให้ไปก่อนเพื่อรอทางการกีฬาฯ จะมอบเงินสนับสนุนมาให้อีกที ถ้าคนที่อยู่วงในจะทราบกันดีในเรื่องนี้ แม้แต่จากปีที่แล้วตนเองยังได้กลับมาคืนจากเงินที่ออกให้ไปก่อนไม่ครบเลยเสียด้วยซ้ำ อยากให้ทุกคนเข้าใจความจริงจากตนเองจริงๆ จากใจ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ