การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่อัล ธูมามา สเตเดียม กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. เป็นการนัดที่สามกลุ่มเอฟ แคนาดา พบ โมร็อกโก
โดยก่อนเกม แคนาดา ตกรอบไปแล้ว จากผลงานแพ้ เบลเยียม 0-1 แพ้ โครเอเชีย 1-4 ไร้แต้ม ส่วน โมร็อกโก เสมอ โครเอเชีย 0-0 ชนะ เบลเยียม 2-0 มี 4 แต้ม
สำหรับเกมนี้ แคนาดา มาในระบบ 3-4-3 ประกอบด้วย มิลาน บอร์ยาน : อลิสแตร์ จอห์นสตัน, สตีเวน วิตอเรีย, คามาล มิลเลอร์ : แซม อเดคุกเบ, โจนาธาน โอโซริโอ, มาร์ก-แอนโธนี เคย์, อัลฟอนโซ เดวีส์ : เทจอน บูคาแนน, ไคล์ ลาริน, จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์
ส่วน โมร็อกโก มาในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ยัสซิน โบโน, อัชราฟ ฮาคิมี, นาเยฟ อาเกิร์ด, โรแม็ง ซาอิสส์, นุสแซร์ มาสราอุย : อาซเซดีน โอนาฮี, โซฟียาน อัมราบัต, อับเดลฮามิด ซาบิรี : ฮาคิม ซิเยช, ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี, โซฟียาน บูฟาล
เริ่มเกมได้เพียง 4 นาที โมร็อกโก ได้เฮกันอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ มิลาน บอร์ยาน ผู้รักษาประตูแคนาดา ออกมาเคลียร์บอลนอกกรอบไม่ดี บอลไปเข้าทาง ฮาคิม ซิเยช ยิงสวนนิ่มๆเข้าประตูให้ โมร็อกโก ขึ้นนำ 1-0
จากนั้นเกมยังเปิดแลกกันสนุกก่อนที่นาที 23 อัชราฟ ฮาคิมี จะวางบอลยาวไปให้ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี สอดเข้าไปยิงในกรอบคมกริบเป็นประตูให้ โมร็อกโก หนีห่างเป็น 2-0
อย่างไรก็ตามแคนาดา ไม่ยอมแพ้ยังคงบุกสู้ก่อนมาได้ประตูในนาที 40 จากจังหวะที่ แซม อเดคุกเบ ทะลุขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนตั้งใจเปิดไปหน้าประตู แต่กองหลังโมร็อกโกอย่าง นาเยฟ อาเกิร์ด สกัดพลาดบอลเข้าประตูตัวเองให้ แคนาดา ไล่มาเป็น 1-2
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกโมร็อกโก เกือบได้ประตูหนีห่างอีกครั้ง จากจังหวะฟรีคิกที่ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี เก็บตกบอลและยิงเข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ให้เป็นลูกล้ำหน้า ทำให้จบครึ่งแรก โมร็อกโก ยังนำ แคนาดาอยู่ 2-1
ครึ่งหลัง โมร็อกโก เป็นฝ่ายลงไปแพ็กเกมเน้นความแน่นอน ขณะที่แคนาดา ซึ่งไม่มีอะไรจะเสีย พยายามเปิดเกมบุก เพื่อหวังประตูตีเสมอ แต่จนแล้วจนรอด ก็ไม่สามารถเจาะเกมรับโมร็อกโก ได้ จบ 90 นาที โมร็อกโก เฉือนชนะ แคนาดา 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนน ซิวแชมป์กลุ่มเอฟ ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก ในรอบ 36 ปี นับตั้งแต่ปี 1986 ที่เม็กซิโก เป็นเจ้าภาพ