รัฐบาลโบลิเวียประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลเมื่อวันอังคาร (31 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น กลายเป็นชาติแรกของโลกที่ตัดสินใจดังกล่าวหลังเกิดความขัดแย้งระลอกล่าสุดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มดิตอาวุธฮามาส
ผู้ที่ประกาศการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตครั้งนี้ คือ นางมาเรีย เนลา ปราดา รัฐมนตรีประจำสำนักประธานาธิบดีโบลิเวีย
“โบลิเวียตัดสินใจยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐอิสราเอลเพื่อคัดค้านและประณามการใช้กำลังทหารรุกรานฉนวนกาซาที่อุกอาจและเกินกว่าเหตุและภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ” นางมาเรีย เนลา ปราดา ประกาศ
รัฐมนตรีประจำสำนักประธานาธิบดีโบลิเวีย กล่าวอีกว่า โบลิเวียเรียกร้องให้ยุติการโจมตีฉนวนกาซา และควรคว่ำบาตรผู้ที่มีส่วนต่ออาชญากรรมสงครามต่อชาวปาเลสไตน์ด้วย
ก่อนหน้านี้ นายเอโบ โมราเลส อดีตประธานาธานาธิบดีโบลิเวีย ก็เคยเรียกร้องให้รัฐบาลโบลิเวียชุดปัจจุบันตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอลเพราะการกระทำของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์ต้องเผชิญกับชะตากรรมที่น่าสลดใจ และควรประกาศให้อิสราเอลเป็นรัฐก่อการร้าย ทั้งยังควรนำนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และบรรดาผู้สมรู้ร่วมคิดไปขึ้นศาลโลกในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และก่ออาชญากรรมสงคราม
โบลิเวียเคยตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอลแล้วเมื่อปี 2552 จากการรุกรานฉนวนกาซา แต่กลับมาสถาปนาความสัมพันธ์อีกครั้งในปี 2563 ที่นางเยนีเน อาเญซ ชาเบซ เป็นประธานาธิบดี