“โทนี่” ตอบผ่านแคร์ทอล์ก “วันนี้ประยุทธ์ พรุ่งนี้ใคร” เปิดสเปกนายกฯ ใหม่ ต้องหัวใจประชาธิปไตย เท่าทันโลก เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง คิดถึงพรุ่งนี้ ปัดตอบคนชินวัตรลงเล่นการเมอืง เหน็บ “เรืองไกร” ร้องยุบ “พรรคเพื่อไทย” รอผู้ใหญใจดีเอารถมาจอดให้ แจงวิดีโอคอลในฐานะอดีตผู้ใหญ่บ้าน ไม่ได้ประชุมพรรค ฟันธงศึกเขี่ย “ธรรมนัส” พ้นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐไม่จบง่าย

เมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุผ่านรายการ CareTalk x Care Clubhouse ในหัวข้อ “วันนี้ประยุทธ์ พรุ่งนี้…ใคร?” โดยระบุว่า ตนไม่ยึดติดกับตำแหน่งนายกฯ สิ่งที่ตนทำตั้งใจให้จบ แต่ถูกยึดอำนาจก่อน แต่เสียดายที่ตนประกาศในปี 2552 ตนจะอายุครบ 60 ปี ความยากจนจะต้องหมดจากแผ่นดินไทย เสียดายตรงนั้น

อีกอันคือ คนไทยช่วงนั้นให้กำลังใจมากและมีไฟมาก ตนนึกไม่ออกทำไมขยันทำงานอย่างมีความสุข เพราะคนไทยให้กำลังใจให้โอกาสตนแก้ปัญหาประเทศ เข้ามาในยามที่ประเทศไทยเป็นหนี้ใน IMF และตนใช้หนี้หมดภายใน 2 ปี แต่เสียดายเรื่องที่ควรทำให้สำเร็จ อีกทั้ง 7 ปีน้องสาวตน (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ถูกรัฐประหารไป บ้านเมืองใช้มิติเดิมลากประเทศถอยหลัง ระบบเผด็จการ รัฐราชการ ตามไม่ทันโลก

โทนี่ ระบุว่า “เราเดินมาผิดตั้งแต่รัฐประหาร 2549 อย่างต่อเนื่อง ถ้าปล่อยให้รัฐบาลประชาธิปไตยอยู่นาน เหมือนกระบวนการยึดอำนาจ ผมว่าบ้านเมืองจะไปได้ดีกว่านี้เยอะ สมองคนไทยไม่ถูกปลดปล่อย ยิ่งเป็นระบบเผด็จการคอยถามเด็กอยากเป็นทหารไหม เรากำลังครอบหัวเด็กไม่ให้คิด”

“ประเทศต้องปลดปล่อยพลังสมองคนไทยด้วยระบอบประชาธิปไตย ต้องให้คนรุ่นใหม่จะเป็น เจนเอ็กซ์ หรือ เจนวาย มาทำงานได้แล้ว เราไปเลี้ยงหลานกันดีกว่า” อดีตนายกฯ ระบุ

เหน็บ “เรืองไกร” ร้องยุบ พท. รอผู้ใหญ่ใจดีเอารถมาจอด

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คุย 3 ป. กับสามมิตร และจะมีการเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคครึ่งหนึ่งเพื่อเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โทนี่ ระบุว่า น่าจะถามเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐว่าครอบงำหรือไม่ ร้องใครไม่ร้องใคร ผู้ใหญ่ใจดีเป็นใคร ถ้าร้องพรรคเพื่อไทย ผู้ใหญ่ใจดีก็จะเอารถมาอีกคันไม่มีที่จอด

ฟันธง พปชร.ไม่จบง่าย เกมเขี่ย “ธรรมนัส” พ้นเลขาธิการ

ถามว่า สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำคืออยากอยู่นาน เพราะฉะนั้นการอยากอยู่นาน จะเล่นงานเปลี่ยน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ตนอยากบอกคนในพรรคพลังประชารัฐ สมัยก่อนมีเกมเด็กๆ แปลงร่าง เพราะถึงเวลากินกล้วย คิดว่าในพรรคพลังประชารัฐประกอบกำลังจากตรงนั้นตรงนี้ โอกาสผลประโยชน์ไม่ลงตัวมีสูง มีการต่อสู้และงัดข้อกันน่าดู แต่ที่สุดน่าจะเอาไม่อยู่ ร.อ.ธรรมนัส เป็นนักเลง ถ้าพูดดีๆ จะพูดรู้เรื่อง ถ้าเล่นกับ ร.อ.ธรรมนัส เรื่องไม่จบ ไม่ใช่ออกแล้วเปลี่ยนเลขาธิการพรรค เพราะเป็นพรรคที่ประกอบกำลังชั่วคราว คงไม่จบง่ายๆ

ถามว่า ให้ฟันธงพรรคพลังประชารัฐแตกแน่นอนหรือไม่ โทนี่ ระบุว่า อยู่กันแบบนี้ เหมือนผัวเหมือนเมียพร้อมเลิกกัน อยู่คนละห้อง

“เขาถึงบอกว่ารับเงินใครก็รับไปเถอะ แต่กาเพื่อไทย ผมไม่มีสิทธิครอบงำใคร คุุณเรืองไกรไปร้อง ศรีสุวรรณ จรรยา ร้องเพื่อไทย ผมรู้ว่าผมทำอะไร การครอบงำตามกฎหมายสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ ขนาดคนบางคนมาหาผมเมืองนอก ผมก็ให้เงินไปชอปปิง ผมยังครอบงำไม่ได้เลย ขนาดดูแลดียังครอบงำไม่ได้ แล้วจะครอบงำอะไรพรรคได้” โทนี่ กล่าวย้ำ

โทนี่ ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศเดียวที่ไม่ใช่ผู้เสียหายแล้วไปร้องได้ ร้องจนคำร้องยกมาพิจารณาในศาล มีแห่งเดียวในโลก นี่ถ้าสุนัขร้องได้คงเห็นใส่ปลอกคอทองคำฝังเพชรได้

ปัดครอบงำ “เพื่อไทย” สวนสั่ง กก.บห.ลาออก ครอบงำพรรคหรือไม่

นอกจากนี้ โทนี่ ชี้แจงถึงการวิดีโอคอล เป็นการอวยพรวันเกิดย้อนหลังให้กับ เกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรรคเพื่อไทย แล้วบอกว่าน่าจะให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาของตนให้เป็นหัวหน้าพรรค เมื่อถามครอบครัวตน ก็ต้องให้ความเห็นครอบครัวตน เมื่อเรื่องออกไปก็เรื่องในบ้าน ไม่ได้เป็นการประชุมพรรค คุยกันในบ้าน

“ผมเหมือนผู้ใหญ่บ้านเก่า ลูกบ้านคิดถึงโทรมาหา คุยกันธรรมดา อย่างนี้เรียกครอบงำ ไอ้ที่เรียกกรรมการบริหารพรรค (พลังประชารัฐ) มาให้ลาออก เรียกครอบงำหรือเปล่า หรือไม่กล้าร้องเป็นผู้ใหญ่ใจดีเหมือนกัน เรื่องนี้อย่าไปเสียเวลา เอาเรื่องใหญ่ๆ ดีกว่าว่าพรรคไหนเสนอแนวทางให้เป็นประโยชน์ต่อประประชาชน ไม่ใช่หลอก 3-4 ปี

ชี้สเปกนายกฯ ใหม่ เข้าใจประชาธิปไตย ผู้นำการเปลี่ยนแปลง

ถามถึงคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี โทนี่ ระบุว่า หัวใจเป็นประชาธิปไตย ถ้าหัวใจเป็นประชาธิปไตยจะเข้าใจประชาชน จะไม่มองคนไทยเป็นพลทหาร นอกจากนั้นต้องตามโลกให้ทัน ต้องให้รู้โลกไปถึงไหน เรามีความเข้มแข็งอย่างไร การเป็นผู้นำต้องเป็นเจ้าภาพการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ทางที่ดีขึ้น การเป็นผู้นำแต่ไม่เป็นเจ้าภาพเปลี่ยนแปลง แล้วใครจะเปลี่ยนแปลง แต่เปลี่ยนแปลง คือ เข้าเกียร์เดินหน้า แล้วถ้าเร่งเครื่องได้ต้องเร่ง ฉะนั้น ต้องหัวใจประชาธิปไตย รักประชาชน ต้องตามโลกให้ทัน ต้องรู้จักกระจายอำนาจให้คนช่วยกันทำ เราทำคนเดียวไม่ทัน แต่เราเป็นเจ้าภาพว่าอะไรไปถึงไหนแล้ว โลกทัศน์ต้องกว้างไกล ไม่ใช่มองอะไรย้อนหลังตลอด ไม่หลงอดีต

“เราไม่ได้อยู่เพื่อเมื่อวาน เราอยู่เพื่อวันนี้กับพรุ่งนี้ เมื่อวานเป็นสิ่งที่เป็นประวัติศาสตร์ควรเข้าใจเป็นบทเรียนไม่พลาดอีก คนที่เป็นนายกฯ คนต่อไปต้องหัวใจประชาธิปไตยต้องรักประชาชน ต้องมองไกลไปข้างหน้า รู้เท่าทันโลก” โทนี่ ย้ำ

โทนี่ ระบุว่า คนเจนเอ็กซ์เป็นวัยที่มีประสบการณ์พอ แต่มีปัญหาเรื่องความเข้าใจเทคโนโลยี โลกยุคใหม่ก็จะมีปัญหา แต่ต้องเรียนรู้ แต่เบบี้บูมเมอร์ (ผู้สูงอายุ) ต้องขยันเรียน ต้องตามเรื่องทุกเรื่องถึงเอาอยู่

ถามนายกฯ ในคนรุ่นต่อไปเป็นอย่างไร โทนี่ ระบุว่า ต้องเข้าใจเศรษฐกิจ ถ้าไม่เข้าใจ ความคิดของคนที่คิดกินเงินเดือนพวกนี้จะไม่คิดว่าเงินขาดมือคืออะไร เพราะสิ้นเดือนมีเงินเดือนออก จะไม่เข้าใจคนหาเช้ากินค่ำ เพราะว่ารัฐบาลมีหน้าที่เปิดโอกาสให้ทำมาหากินได้เสรี เข้าถึงแหล่งทุนเทคโนโลยี

โทนี่ ยังระบุถึงความจำเป็นของผู้นำในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลว่า “ภาษาอังกฤษมีความจำเป็นสำหรับผู้นำคุยเล่นกันได้ ถึงแม้ขึ้นไปอ่าน ถ้าอ่านภาษาอังกฤษได้ดีกว่า เห็นภริยาของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอาจารย์สอนภาษาอังกฤษ ท่านต้องเรียนกับภริยา”

ชี้เร็วไปคนตระกูลชินวัตรจะอาสาลงการเมือง

เมื่อถามว่าโอกาสจะมีคนในตระกูลชินวัตรเหมือน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาสามาทำงานการเมืองอีกหรือไม่ โทนี่ ระบุว่า “เป็นคำถามที่ดีแต่ไม่มีคำตอบ มันซับซ้อนครับ การเมืองไทย”

“ถ้าใครจะปรึกษาผม ถ้ามีอะไรใครจะปรึกษาผม แนะนำการบริหารในข้อมูลการติดต่อการต่างประเทศ ผมยินดีไม่คิดเงิน อยากช่วยบ้านเมือง แต่ว่าครอบครัวยังเร็วเกินไปที่จะคิดอะไรอยู่”

ในช่วงท้ายมีคำถามว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ พรุ่งนี้ใคร โทนี่ ระบุว่า พรุ่งนี้เราต้องการผู้นำหัวใจประชาธิปไตย เป็นผู้นำที่น้ำไม่เต็มแก้ว พร้อมที่จะปรับตัวเรียนรู้กับเรื่องใหม่ๆ มีลักษณะเป็นผู้นำ นำไทยให้ทันโลก ในทางการเมืองระหว่างประเทศ ไม่เป็นเบี้ยล่างคนอื่น ไม่ท้าทายใคร ต้องรักษาผลประโยชน์ประเทศ การเมืองระหว่างประทศต้องเแข็งแรงมีวิสัยทัศน์ ลงมือทำจริง พูดแล้วต้องลงมือทำ สัญญาแล้วต้องทำให้ได้ สัญญาแล้วไม่ทำ ไม่อายผีก็อายเมียที่บ้าน ขอกันแค่นี้

การเมืองช่วงหลังไม่สนุก เล่าสัมพันธ์ “สุเทพ-เนวิน”

นอกจากนี้ โทนี่ ยังระบุถึง สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. ว่า ตนรู้จัก สุเทพ เมื่อครั้งตนเป็น รมว.ต่างประเทศ ตอนนั้น สุเทพ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่ง นิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ สุเทพ จบ ม.เชียงใหม่ รู้จักตอนนั้น แต่การเมืองอยู่คนละฝั่ง รบกันไปสู้กันไป แต่สปิริตการเมืองต้องว่าตามกติกา ไม่อาฆาตมาดร้าย

“แต่ผมกับเขาก็ห่างเหิน ตอนพ่อเขาตายก็ไปงานศพ ระยะหลังการเมืองเปลี่ยนไปเยอะ การเมืองไม่สนุก คือไม่ได้เป็นลักษณะว่ากันตามกติกา”

โทนี่ ยังระบุว่า สำหรับ เนวิน ชิดชอบ พ่อตน (เลิศ ชินวัตร) และพ่อเนวิน (ชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา) เป็น ส.ส.รุ่นปี 2512 ด้วยกัน พ่อตนรู้จักพ่อเนวิน ตนรู้จักพ่อเนวิน ก่อนรู้จักเนวิน

“ตอนหลังพ่อเนวินบอกว่า หลานเอ้ย ฝากน้องชายด้วย ตอนหลังก็มารวมอยู่กับพรรคไทยรักไทย ตอนผมเป็นนายกฯ สนิทกันดี เป็นคนขยันขันแข็ง เนวินก็คาแรคเตอร์ของเขา ตอนหลังที่พรรคพลังประชาชนมีปัญหาเรื่องคุณสมัครทำกับข้าวมีอันต้องแยกย้าย ไปอยู่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตอนนั้นห่างเหินก็รู้จักกัน แต่ห่างเหินทางการเมือง”