โดนแล้ว! เตรียมแจ้งข้อหา แม่ลูกขับรถ แหกด่าน ไลฟ์สดด่ากราดตำรวจ

Home » โดนแล้ว! เตรียมแจ้งข้อหา แม่ลูกขับรถ แหกด่าน ไลฟ์สดด่ากราดตำรวจ


โดนแล้ว! เตรียมแจ้งข้อหา แม่ลูกขับรถ แหกด่าน ไลฟ์สดด่ากราดตำรวจ

ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เตรียมออกหมายเรียกแจ้งข้อหา แม่ลูกขับกระบะ แหกด่าน ควักมือถือไลฟ์สด ด่ากราดตำรวจ เผยผลตรวจค้นรถ

จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ผบ9710 ขอนแก่น ขับรถแหกด่านตรวจกวดขันวินัยจราจร ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจร จะขับรถไล่ติดตามและเข้าทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าว และปรากฏชายวัยรุ่นที่เดินทางมาพร้อมกับแม่ ทราบชื่อคือ นายสุชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี คนขับรถกระบะคันก่อเหตุ และ นางสมจิตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ได้หยิบมือถือถ่ายคลิปไลฟ์สดขณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน

โดยมีการกล่าวหาว่า ตำรวจมาค้นรถทั้งที่ตั้งด่านจราจรเฉย ๆ ไล่จับรถตนอย่างกับจับยาบ้า พูดจาไม่ดี รังแกประชาชน ตนแค่แหกด่านจราจรเฉย ๆ เสียเวลาทำมาหากิน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาดำเนินคดี ก่อนที่นายสุชาติและนางสมจิตรจะนำกระเช้าดอกไม้มอบให้ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด เพื่อแสดงคำขอโทษ โดยมีตำรวจจราจรในวันเกิดเหตุร่วมรับช่อดอกไม้ดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา

ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เตรียมออกหมายเรียกแจ้งข้อหา แม่ลูกขับกระบะ แหกด่าน ควักมือถือไลฟ์สด ด่า

ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เตรียมออกหมายเรียกแจ้งข้อหา แม่ลูกขับกระบะ แหกด่าน ควักมือถือไลฟ์สด ด่า

ต่อมาเฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความระบุว่า “แค่มันถือกระเช้าเเล้วมากล่าวคำขอโทษก็จบหรือครับ ศักดิ์ศรีของลูกน้องถูกเหยียดขนาดนี้ยังไม่คิดปกป้อง วันนี้ผมจะให้ฝ่ายกฎหมายไปกล่าวโทษที่ท่านละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ #แหกด่านบ้านเป็ด” ขณะเดียวกันชาวเน็ตได้มีการแคบหน้าจอการตอบคอมเมนต์ของนายอภิสรา ในกลุ่มที่ชื่อว่า “ขอนแก่นมีด่านบอกด้วย แจ้งข่าว” ระบุว่า “ก็โดนจับไปบ้านเป็ด คุยกับผู้กอง คนบ้านเดียวกัน แกก็ไม่ได้ว่าอะไรก็ปล่อยกลับบ้าน” เมื่อถามว่าเสียค่าปรับอะไรไหม เจ้าตัวตอบว่า “ไม่เสียครับ”

นอกจากนี้ ยังมีภาพที่นายอภิสราถ่ายรูปคู่กับตำรวจจราจรที่ขับรถ ซึ่งคาดว่าไปที่โรงพัก ระบุว่า “คนจับกับคนโดนจับ ตอนจับก็จะโหด ๆ หน่อย สนิทกันแล้ววันหลังไม่ต้องไล่นะ มีคนเดียวชอบแหก” ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองว่า ผู้ก่อเหตุไม่ได้สำนึกผิด ในทางกลับกันกับแสดงความเห็นราวกับว่า ตนเองมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น รวมทั้งมีการโจมตีว่า เหตุใดผู้บังคับบัญชาระดับสูงในพื้นที่เกิดเหตุ จึงไม่ป้องป้องศักดิ์ศรีของตำรวจผู้ปฏิบัติงานใต้บังคับบัญชา

ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.2565 พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ในฐานะโฆษกตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น เดินทางมาประชุมติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นร่วมกับ พ.ต.ท.ประเสริฐ ตุ้มฉิม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านเป็ด, พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.บ้านเป็ด และเจ้าหน้าที่ตำรวจงานจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ

พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.50 น.ของวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ได้ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร ที่ถนนมะลิวัลย์ ต.บ้านทุ่ม อ.เมืองขอนแก่น ได้มีผู้ขับขี่รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน ผบ9710 ขอนแก่น เข้ามายังจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวมีการดัดแปลงโหลดเตี้ยและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลัง จึงเรียกให้ผู้ขับขี่หยุดรถ

พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวต่อว่า แต่คนขับกลับไม่ยอมหยุดรถ และได้ขับรถแหกด่านหลบหนีไป โดยขับมุ่งหน้าไปตามถนนมะลิวัลย์เข้าเขต อ.บ้านฝาง ห่างจากจุดตั้งด่านตรวจ ประมาณ 8 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่า รถคันดังกล่าวมีพิรุธ น่าสงสัยว่าอาจมีสิ่งผิดกฎหมายภายในรถ จึงขับรถไล่ติดตามไป ก่อนจะสั่งให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นภายในรถคันดังกล่าว นางสมจิตรได้ใช้กิริยาไม่สุภาพและกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวอีกว่า โดยหลังจากตรวจค้นและไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงได้ควบคุมตัวสองแม่ลูกมาดำเนินคดีตามความผิดที่เกิดขึ้น โดยได้แจ้งข้อหากับนายสุชาติ ในข้อหา ไม่ปฏิบัติตามสัญญาณจราจรที่เจ้าพนักงานจราจรแสดงให้ปฏิบัติข้างหน้า ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 24, 152 แห่ง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ข้อหาไม่แสดงใบอนูญาตขับรถและสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือการจดทะเบียนรถ ตามมาตรา 42, 66 แห่ง พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และข้อกล่าวหาอื่นที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ ทำนองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในระดับบังคับบัญชา ไม่ปกป้องศักดิ์ศรีของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน ปล่อยให้ผู้ก่อเหตุด่าทอตำรวจด้วยถ้อยคำหยาบคาย และตำรวจยอมความเพียงเพราะสองแม่ลูกนำกระเช้ามาแสดงความความขอโทษนั้น

พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติงานตามกฎหมายในวันเกิดเหตุ ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด ในฐานะเจ้าทุกข์แล้ว โดยได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับนางสมจิตรในฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 136 โดยพนักงานสอบสวนจะทำการออกหมายเรียกให้นางสมจิตร เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ อยากขอความร่วมมือไปยังประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งจุดตรวจ ในกรณีที่มีการเรียกตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เพื่อกวดขันวินัยจราจร และตรวจสอบหาสิ่งผิดกฎหมาย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ