วันที่ 14 มิถุนายน 2567 การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการทดสอบเดินขบวนรถพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM จากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ถึงสถานีหัวหิน โดยได้รับเกียรติจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ร่วมเยี่ยมชมขบวนรถที่สถานีปลายทาง สถานีหัวหิน (เดิม) พร้อมรับฟังบรรยายสรุปแผนการเดินรถ และเยี่ยมชม ชิมอาหารของดีวิถีริมรางรถไฟ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล โดยมีนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนางสาวณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอวิรุทธ์ ทองเนตร รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และคณะผู้บริหารการรถไฟฯ ให้การต้อนรับ
- รฟท. เตรียมทดลองวิ่ง กรุงเทพ – เวียงจันทร์ กระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งเสริมการท่องเที่ยว
- EVme เปิดตัว EVme Mobility Studio แห่งแรก ยกระดับการใช้รถ EV ครบวงจร
- โครงการดีๆ! กทม. จัดกิจกรรม รับ-ส่ง ผู้สูงอายุ จากบ้านถึงโรงพยาบาลฟรี!
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดทดสอบการเดินขบวนรถ SRT ROYAL BLOSSOM เส้นทาง กรุงเทพ-หัวหิน ครั้งนี้ การรถไฟฯ มีเป้าหมายเพื่อต้องการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อก่อให้เกิดการสร้างงาน กระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่น โดยขบวนรถ SRT ROYAL BLOSSOM เป็นรถไฟท่องเที่ยวขบวนใหม่ ที่การรถไฟฯ ทำการปรับปรุงหลังได้รับมอบจากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR Hokkaido) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันปรับปรุงเสร็จสิ้นแล้ว 5 คัน จากจำนวนทั้งหมด 10 คัน และมีกำหนดเปิดให้บริการนำร่องช่วงแรกเดือนสิงหาคม 2567 นี้
ส่วนรถโดยสารที่เหลืออีก 5 คัน การรถไฟฯ อยู่ระหว่างเร่งการปรับปรุง คาดจะนำมาให้บริการแก่ประชาชนเพิ่มเติมได้ภายในปลายปี 2567 ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จขบวนรถท่องเที่ยว SRT Royal Blossom จะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเสริมศักยภาพการเดินทาง และสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศ ตลอดจนผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลกตามนโยบายรัฐบาล
สำหรับรถโดยสาร SRT ROYAL BLOSSOM เป็นขบวนรถไฟที่ถูกออกแบบสำหรับใช้เดินทางท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีการดีไซน์ด้วยความพิถีพิถันจากฝีมือช่างคนไทย ภายในประกอบด้วย สันทนาการครบครัน ออกแบบบานหน้าต่างด้วยกระจกขอบทองกว้างพิเศษ พร้อมมุมคาเฟ่ เพื่อให้ผู้โดยสารสัมผัสบรรยากาศวิวสองข้างทางอย่างเต็มที่ เบาะหุ้มที่นั่งเป็นกำมะหยี่ งานตกแต่งหลักทำจากไม้สนซีดาร์ซึ่งมีความคงทนสวยงาม ติดตั้งบันไดทางขึ้น-ลงสำหรับรองรับชานชาลาสูงและต่ำ สามารถรองรับรถวีลแชร์ของผู้พิการตามมาตรฐาน Universal ตลอดจนมีเครื่องฟอกอากาศทุกคัน ส่วนภายนอกดีไซน์สไตล์หรูหรา เฉดสีสะดุดตาด้วยสีแดงของกลีบดอกไม้คาดทอง
นอกจากนี้ ระหว่างเส้นทางที่มีการทดสอบขบวนรถพิเศษท่องเที่ยว SRT ROYAL BLOSSOM เส้นทาง สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-หัวหิน ครั้งนี้ นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้นำคณะผู้บริการกระทรวงคมนาคม และการรถไฟฯ ลงตรวจเยี่ยมติดตามความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะเร่งด่วน ช่วงนครปฐม-ชุมพร โดยภาพรวมการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ มีความก้าวหน้าตามลำดับ ขณะที่การทดสอบการเดินรถ ก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งส่วนของขบวนรถ และพนักงานผู้ให้บริการ
นายเอกรัช กล่าวเพิ่มว่า การรถไฟฯ มีแผนเปิดให้บริการขบวนรถท่องเที่ยว SRT Royal Blossom เต็มรูปแบบ ครั้งแรกเส้นทางกรุงเทพ (หัวลำโพง) – กาญจนบุรี ช่วงเดือนสิงหาคม 2567 ซึ่งจะเป็นการขานรับนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวช่วงนอกฤดูกาล ตลอดจนสนับสนุนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก
สำหรับตู้โดยสารทั้ง 5 คัน แบ่งออกเป็น
ตู้ที่ 1 รถโดยสาร Group Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นห้องโดยสารแบบกลุ่มส่วนตัว จำนวน 4 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องสามารถรองรับได้ 4-6 คน สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้กว่า 180 องศา ประตูเซนเซอร์ มีทางเดินที่กว้างขวาง สะดวกสบายรองรับรถวีลแชร์ นอกจากนี้ ยังมีมีลิฟต์ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว และห้องน้ำสำหรับรองรับผู้พิการด้วย
ตู้ที่ 2 รถโดยสาร Passenger Car จำนวน 3 คัน โดยดัดแปลงเป็นห้องโดยสารแบบรวม มีทั้งหมด 48 ที่นั่งต่อคัน โดยที่นั่งมีทั้งแบบหันหน้าเข้าหาหน้าต่างเพื่อชมวิว หรือปรับเบาะหันหน้าเข้าหากันเพื่อทำกิจกรรมในกลุ่มเพื่อนได้ พร้อมทั้งช่องเสียบสาย USB ทุกที่นั่ง ซึ่งแต่ละตู้จะมีเบาะที่นั่งที่มีสีสันต่างกัน เพื่อสื่อถึงการเดินทางในแต่ละครั้ง ผู้โดยสารจะได้รับความประทับใจที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา นอกจากนี้ ยังมีอีก 8 ที่นั่งที่แยกออกมาสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วย
ตู้ที่ 3 รถโดยสาร Leisure Car จำนวน 1 คัน โดยดัดแปลงให้เป็นรถเสบียง สำหรับให้บริการอาหารและเครื่องดื่มที่ผู้โดยสารสามารถมาใช้บริการหรือซื้อกลับไปรับประทานที่ตู้โดยสารได้ ภายในออกแบบเคาน์เตอร์บาร์ให้อยู่ตรงกลางทำให้ผู้โดยสารสามารถเดินด้านข้างได้ทั้ง 2 ด้าน มีพื้นที่กว้างขวางสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ และกระจกมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษสามารถนั่งชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ บริเวณด้านท้ายตู้มีพื้นที่โล่งที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถมายืดเส้นยืดสายพักผ่อนอริยาบถได้อีกด้วย
ท้ายนี้ การรถไฟฯ พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ระหว่างจัดทำแผนขยายการท่องเที่ยวในวันธรรมดา และเพิ่มเส้นทางรถไฟท่องเที่ยวไปยังเส้นทางใหม่ๆ ทั้งแบบไปเช้ากลับเย็น และแบบค้างคืน เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางทางรถไฟมากขึ้น อีกทั้งจะบูรณาการความร่วมมือกับทุกหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในส่วนท้องถิ่น หน่วยราชการ และผู้ประกอบการในพื้นที่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไปสู่ชุมชน โดยมีรถไฟเป็นจุดเชื่อมโยง ให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งต่อสังคม เศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ที่มา การรถไฟแห่งประเทศไทย