โฆษก รบ. ยัน รัฐบาลชุดนี้ ทำราคาปาล์มสูงสุดในรอบหลายปี กิโลกรัมละ เกือบ 9 บาท วอนชาวสวนเข้าใจการทำงานของรัฐบาล ปัญหาทุกอย่างเป็นลูกโซ่

วันที่ 26 พ.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบข้อห่วงกังวลจากกลุ่มชาวสวนปาล์มที่หวั่นว่า การปรับสูตร ให้เหลือน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเหลือเพียง บี7 และขอความร่วมมือกำหนดค่าการตลาดที่ 1.40/ ลิตร ในเดือนธันวาคม 2564 – เดือนมีนาคม 2565

จากมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ล่าสุด ซึ่งต้องขอความเข้าใจจากพี่น้องเกษตรชาวสวนปาล์ม รัฐบาลพยายามแก้ปัญหาราคาพลังงานทั้งระบบ และพยายามอย่างที่สุดจะให้เกิดผลกระทบต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างน้อยที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ปัญหาทุกอย่าง เกี่ยวเนื่องเป็นวงจรห่วงโซ่ มีหลายกลุ่มอาชีพที่เกี่ยวข้องต้องอาศัยความเข้าใจซึ่งกันและกันในการแก้ปัญหา รัฐบาลนี้ได้ความสำคัญกับการแก้ปัญหากับเกษตรกรทุกพืช เพราะเป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่สุดของประเทศและมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบทำราคาสูงขึ้นมากในรัฐบาลชุดนี้ ถึงกิโลกรัมละเกือบ 9 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในหลายปีที่ผ่านมา จากเดิมที่ชาวสวนปาล์มเคยขายได้ในราคากิโลกรัมละ 2-3 บาท

อีกทั้ง ภาคการส่งออกและบริโภคในต่างประเทศที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว ราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกอยู่ในทิศทางขาขึ้นตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาล โดยคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบโครงการเร่งส่งออกปาล์มน้ำมัน 3 แสนตัน ภายในเดือน มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

กระทรวงพลังงานในการเร่งหารือหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบกว่า 100,000 ตัน เพื่อใช้ในโครงการผลิตไฟฟ้า และยังผลักดันให้เกิดโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาเพื่อช่วยเหลือช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มอีกด้วย

“ราคาน้ำมันโลกมีขึ้น-ลง เป็นไปตามหลักการ demand-supply และสถานการณ์โลกในระยะเวลานั้น มาตรการที่ออกมาจึงเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ จึงอยากให้ทุกกลุ่มเข้าใจความพยายามของรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาวิกฤตเฉพาะ

ซึ่งจุดมุ่งหมายคือ ผู้ประกอบการ ยังสามารถดำเนินกิจการ ต่อไปได้ ท่านนายกรัฐมนตรีเอง ก็สั่งให้มีการติดตามประเมินผลสัมฤทธ์ของมาตรการนี้ เพื่อจะนำมากำหนดเป็นแนวทางในการดำเนินมาตรการพลังงานในระยะต่อไป ” นายธนกร กล่าว