โค้ชเวียดนาม อย่าง ปาร์ก ฮัง ซอ กุนซือใหญ่ชาวเกาหลีใต้ พอใจทัพดาวทองเข้ารอบตัดเชือก ซูซูกิ คัพ เผยรอบตัดเชือกไม่ว่าจะเจอไทยหรือสิงคโปร์คงไม่ต่างกัน

โค้ชเวียนาม ปาร์ก ฮัง ซอ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทัพ “ดาวทอง”เวียดนาม พาลูกทีมถล่มเอาชนะกัมพูชา 4-0 ในนัดสดท้ายรอบแรกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน (เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020) แต่ไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่ม เนื่องจากมี 10 คะแนนเท่ากับอินโดนีเซีย แต่ลูกได้-เสียเป็นรองทำให้ต้องเจอกับไทยในรอบตัดเชือก

ปาร์ก ฮัง ซอ กล่าวว่า “ผู้เล่นของเราทำดีที่สุดแล้วในเกมกับกัมพูชา และเอาชนะ 4-0 แต่ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มบี เมื่ออินโดนีเซีย ชนะ มาเลเซีย 4-1 ซึ่งทำให้ทีมเวียดนาม มีผลต่างประตูได้-เสียเป็นรอง อย่างไรก็ตามผมยังคงพอใจกับผลลัพธ์ของชัยชนะครั้งนี้มาก”

• กุนซือช้างศึก ไม่สนฟัดเวียดนามตัดเชือกซูซูกิ ชี้จะแชมป์ต้องชนะทุกทีม

“เราเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยอันดับสองในกลุ่ม ดังนั้นเราจะพบกับประเทศไทยที่จ่าฝูงของกลุ่มเอ แต่คงเหมือนกันกับทุกทีม อย่างไรก็ตามไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และการพบกับพวกเขาจะมีเสน่ห์ และการแข่งขันเข้มข้น ดุเดือดมาก ไทยมีข้อได้เปรียบคือพวกเขาได้พักมากกว่าเรา 1 วัน นอกจากนี้ผมคิดว่าเรายังมีปัญหาด้านโภชนาการอยู่บ้าง เมื่อการรับประทานอาหารของผู้เล่นยากขึ้น เพราะกินอาหารกล่องเป็นหลัก แม้ว่าสหพันฟุตบอลเวียดนาม (วีเอฟเอฟ) จะพยายามเสริมอย่างมาก แต่ยังไม่เพียงพอและนั่นคือปัญหาของทีมเวียดนาม”

“ส่วนการที่เราไม่เสียประตูเลยในการแข่งขันรอบแรก ความจริงของการไม่เสียประตูไม่ควรจะพูดให้เป็นประเด็นมากนัก เพราะอย่างที่เห็นคือผู้เล่นทำได้ทุกอย่างดีมากในเกมรับ เราจะมีวันหยุดสามวัน และผมต้องพยายามปรับปรุงการเข้าทำ และการป้องกันสำหรับเกมนัดแรกในรอบรองชนะเลิศ”

“ต้องยินดีกับฟอร์มของเหวียน กวง ไฮ ที่เล่นได้อย่างโดดเด่นในเกมกับกัมพูชา แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ทำประตูให้กัมพูชามากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม กวง ไฮ และเพื่อนร่วมทีมพยายามอย่างสุดความสามารถ แน่นอนการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ไม่ว่าจะเข้าไปพบกับไทย หรือสิงคโปร์ คงไม่มีอะไรต่างกัน ไม่สำคัญจริงๆ และเราทุกคนต้องพยายามเอาชนะพวกเขา”

สำหรับรอบรองชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ระหว่างทีมชาติไทย (แชมป์กลุ่มเอ) กับเวียดนาม (แชมป์กลุ่มบี) จะลงสนาม 2 นัด โดยนัดแรกวันที่ 23 ธ.ค. และนัดที่ 2 วันที่ 26 ธ.ค. ทีมชนะจะผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่าง สิงคโปร์ รองแชมป์กลุ่มเอ กับ อินโดนีเซีย แชมป์กลุ่มบี