แอน ทองประสม ได้แหวนหมั้นคืน ปีชงวัย 45 ฟาดเคราะห์หนักสุด เสียทรัพย์ บริวาร

ปีนี้ฟาดเคราะห์หนักทุกรูปแบบ มีหลายมรสุมเรื่องราวเข้ามาในชีวิต นางเอกผู้จัดชื่อดัง แอน ทองประสม ที่ทั้งเสียทรัพย์สิน เสียบริวาร โดนคนไว้ใจใกล้ตัวขโมยทรัพย์สิน ขาหักจากการโหมวิ่งหนัก และติดโควิด

งานนี้สาวแอน เปิดใจในวงสัมภาษณ์ภาพยนตร์ บัวผัน ฟันยับ ที่ช่อง3 มาลีนนท์ ขอให้การเริ่มต้นในวัย 46 มีแต่เรื่องราวดีๆ เข้ามา เพราะที่ผ่านมาเจอมาหนักมากจนถึงกับหลอน พร้อมอัพเดตคดีได้ของหมั้นที่หวานใจ เอ ทินพันธ์ ให้ คืนกลับมาแล้ว และกำลังตามทรัพย์สินต่างๆ ทยอยกลับคืนมา

เพิ่งผ่านวันเกิดมา เป็นยังไงบ้าง? “ดีมากค่ะ รู้สึกว่าเป็นวันเกิดที่แอนคงโดนมาเยอะปีนี้แล้วทุกคนอยากมาให้กำลังใจ เป็นอะไรที่แอนก็ไม่คิดว่าวันนั้นเพื่อนๆ จะมา คุณดิว(ปิ่นกมล มาลีนนท์)เขาก็เลยอยากเอาคนที่แอนรักมาอยู่ด้วยกัน แต่ว่าบางคนเขาไม่ว่างหรือจังหวะที่มีการขยับวันไม่งั้นอาจจะเจอเพื่อนหลายคนกว่านี้”

หนุ่มๆ ก็ยกเค้กมาอวยพร? “ใช่ค่ะ มีพี่เจมส์(เจมส์ จิรายุ) มีพี่หมาก(ปริญ)มา แล้วก็ไปเจอน้องนาย(ณภัทร)ไปยกเค้กให้กันที่โน่น ก็ดีค่ะ มันเป็นความรู้สึกที่ทุกคนเหมือนอยากลูบหลังเรา อยากทำให้เราอย่างน้อยวันนี้เป็นวันที่ยอมเราทุกอย่างให้เรามีความสุข ก็ดีใจค่ะ”

พี่เอ(ทินพันธ์)มีเซอร์ไพรส์อะไรไหม? “ปีนี้นางไม่อวยพรอะไรแอนเลย นางเงียบไปเลย แต่นางซื้อของขวัญให้แล้วก่อนวันเกิดค่ะ แต่ว่าไม่ได้อวยพรอะไรกันเยอะแยะ มีแค่ว่าโทรหากันตอนแอนอยู่ที่โน่นแล้วก็โทรบอกเขาว่าเราถึงแล้ว เขาก็แฮปปี้เบิร์ธเดย์แค่นั้นค่ะ”

จริงๆ แอบหวังเซอร์ไพรส์ไหม? “ไม่แล้วค่ะ จริงๆ อยู่มานานแล้วไม่ต้องเซอร์ไพรส์ก็ได้ ก็เฉยๆ”

แล้วเรามีอะไรให้ตัวเองไหมในวันเกิดปีนี้? “เออ แอนซื้ออะไรให้ตัวเองหรือยังนะ กำลังคิดอยู่ แอนมีสิ่งที่อยากได้ แอนอยากได้พวกเสื้อผ้าธรรมดานี่แหละ ไม่ได้เป็นของชิ้นใหญ่อะไร เครื่องประดับอะไรที่มันง่ายๆ ก็เป็นของผู้หญิงๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ”

หลังจากที่ผ่านเรื่องแย่ๆ มา? “เป็นปีที่มีคนบอกว่า 45 คือปีชงเลข 5 ของทุกอย่าง 25 35 45 แอนก็เพิ่งรู้เออมันชงจริงๆ แอนแบบโควิด ขาหัก โจรกรรม โห โดนทุกอย่างเลย เสียทรัพย์ เสียบริวาร ครบๆ เต็มที่”

อัพเดตคดีที่โดนขโมย? “ยังตามของอยู่เลย วันนี้ต้องไปเจอทนายเพราะต้องมีการฟ้องร้องกันแล้ว ได้คืนมาเป็นบางส่วนที่เจรจาได้ มีคุยกันได้ เขาน่ารักมาก มีดีเทลอะไรบางอย่างที่แอนยังบอกไม่ได้ เอาเป็นว่าคุยแล้ว แอนได้มาแล้วส่วนหนึ่ง

แต่มีบางส่วนที่ไม่ยอมก็ฟ้อง มันก็ยังพัวพันอยู่ ใครจะมาอยากขึ้นโรงขึ้นศาล แอนก็ไม่ได้ชอบพลังงานอะไรแบบนี้ แต่ว่ามันก็ว่ากันไปตามกระบวนยุติธรรม เราก็ถูกของเรา เราก็ต้องมีความหวังกับความถูกต้อง เราต้องเชื่อในกระบวนการยุติธรรมอยู่บ้าง ถ้าเราไม่เชื่อเลย เราก็หมดหวังที่จะต่อสู้

แอนก็อยากสู้ดูสักตั้ง ถ้าสิ่งที่แอนทำมันสามารถเซ็ตสแตนดาร์ดบางอย่างเพื่อดูแลคนที่โดนเอาเปรียบอย่างแอนหรือโดนทำร้าย แอนก็ดีใจ แต่ก็ไม่รู้ท้ายที่สุดแอนจะเดินมาบอกไม่ได้ หรือว่าแอนได้ว่ะ ทุกคนอย่าหมดไฟ ขอลองดูก่อนนะคะว่าจะได้หรือเปล่า”

เราหวังไหมว่าจะได้ครบ? “ไม่ครบหรอกค่ะ บางอย่างมันไปหมดแล้ว มันสูญสลายไปแล้ว บางอย่างมันยังมีอยู่ ก็เดี๋ยวค่อยๆ ตามไป ไม่ทำใจค่ะ ที่เป็นเงินทำใจแล้วเพราะมันไปแล้วหายไปแล้ว แต่ว่าที่เป็นของมันยังอยู่ มันรอเราอยู่ ให้เราไปเอาเขาคืนมา”

แหวนหมั้นของหมั้นได้คืนมาหรือยัง? “อันนั้นเอาคืนมาแล้วค่ะ อันนั้นต้องเอามาก่อนเป็นอันแรกเลย มันมีคนที่เข้าใจเรา มันมีโรงรับจำนำที่เข้าใจกัน เขารู้ เขาทำธุรกิจเขาเข้าใจ คุยกันแล้วต่างยอมรับความเสียหายทั้งคู่ มันก็ดี ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีตรงนี้อยู่บ้าง

แต่ก็ยังมีความวุ่นวายรออยู่ เดี๋ยวต่อสู้ไปค่ะ เป็นเรื่องของการตามของเรามากกว่า ถามว่าเหนื่อยไหม มันเสียพลังงาน มันไม่ดี บางทีเราเล่นละครเราต้องใช้อารมณ์ในการเล่นละคร เราไม่อยากเอาอะไรมากวนใจตัวเองทำให้เราเล่นละครไม่ดี อะไรที่มันเป็นพลังงานลบๆ เราก็ไม่อยากรับหรอก แต่มันเลี่ยงไม่ได้ เราก็ต้องไปจัดการมัน อยากจบให้เร็วที่สุด”

ตอนนี้เริ่มกลับมาซื้อเก็บใหม่ไหม? “โนค่ะ (เข็ดแล้ว?) อืม ไม่อยากดูแลอะไรแล้ว เริ่มใหม่นี่แบบเอาสุขภาพ เอาความสุข เอาเพื่อน เอาครอบครัวอย่างนี้ดีกว่า ตอนนี้ก็ยังมีนะคะแต่ไม่มองเป็นการลงทุนอะไรแบบนั้นอีกแล้ว คือแอนไม่ได้เป็นคนเด็กบ้าทรัพย์สินอย่างนั้นอยู่แล้ว แต่แอนซื้อมาเพื่อลงทุน เพื่อแบ่ง เช่น เราเก็บเงินสด เก็บบ้าน เก็บที่ดิน เก็บของ เราก็แค่แบ่งตามเจตนาเราแบบนั้น ก็ไม่คิดว่าส่วนที่เราแบ่งไว้มันจะหายไป”