แอน ทองประสม แซ่บไหว ซีรีส์รีเมกเกาหลี อนันดา ถึงขั้นโทรถาม รู้ต้องมีเปรียบเทียบ
แอน ทองประสม แซ่บไหว / ท้าทายความสามารถไปอีก เมื่อดาราสาว แอน ทองประสม รับบทเป็นนางเอก ซีรีส์รีเมก เรื่อง The World of the Married เวอร์ชั่นไทย ประกบคู่กับหนุ่ม อนันดา เอเวอริงแฮม แต่แล้วก็ต้องพลาดฉากยากๆ เพราะต้องรักษาอาการเท้าหัก เป็นเวลา 3 เดือน
ล่าสุด แอน ทองประสม เดินทางมาร่วมงาน “Beauty Gems THE Extravaganza of thainess together with phloen thai samai niyom club” ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลชิดลม ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์อัพเดตผลงานละคร และอาการบาดเจ็บที่เท้า
เรื่อง The World of the Married ในที่สุดก็เคาะมาเป็นเรา? “เคาะแล้วแต่แอนยังไม่เคยได้เข้าไปคุยกับทีมงานเลย แต่อนันดา แพทริเซีย เขาได้เข้าไปคุยแล้ว ก็ดีใจที่ได้เล่น เป็นเรื่องที่แอนชอบอยู่แล้ว แอนได้ดูในเวอร์ชั่นเกาหลี
พอเขาทาบทามมาตอนนั้นก็เคยคิดว่าถ้าเป็นเราเล่นจะเล่นแบบนี้ไหม ก็ไม่ได้คิดใฝ่ฝันว่าตัวเองจะได้เล่นหรอก แต่เราก็ลองตีความดู มันเหมือนเราได้สนุกกับการตีความในฐานะนักแสดงตามเขา ตอนนี้ก็ได้คิวฟิตติ้งแล้ว ได้ทำงานปีนี้แน่นอน”
จะแซ่บไหวไหม? “แซ่บไหว อนันดาโทร.มาถามว่าพี่แอนอ่านบทรึยัง ก็บอกเขาว่ายังไม่มีใครส่งบทมาให้เลย เขาก็ถามกลับว่าพี่แอนแน่ใจใช่ไหม เราก็บอกมันขนาดนั้นเลยเหรอ เขาบอกลองไปอ่านดูแล้วกัน ผมไม่ติดอยู่แล้ว ผมโอเค
แอนว่าในความเป็นบ้านเรามันก็คงมีเส้นของมันแหละ ทุกอย่างมันก็ต้องมีที่เหมาะสมของมัน แอนยังไม่เคยเจอผู้กำกับฯ ยังไม่เคยเจอทีมก็เลยยังไม่สามารถตอบได้ว่าเขาจะไปในทิศทางไหน”
แฟนอนันดาไม่…ถ้าเป็นเรา? “เอ้ย…ไว้ใจพี่เถอะ เวลาเราเล่น เราไม่ได้คิดเป็นตัวเองไง ก็เลยไม่รู้ว่ามันจะมากจะน้อย ไม่รู้จริงๆ เพราะเราไม่ได้เล่นในฐานะเป็นตัวเอง บทบาทมันไปทางนั้น แล้วในเรื่องมันมีเหตุการณ์กดดันนางเอกมากมาย คงต้องมีลองผิดลองถูกกันไป ท้ายสุดก็ได้ผลลัพธ์อะไรกลับมา บางทีตัวละครมันก็ต้องพาไปเจอวิบากกรรม ปัญหา ซึ่งถ้าเราไม่กล้า เราแหย่มันก็ไปไม่สุด”
เจอเปรียบเทียบแน่นอน? “มันก็ต้องมีแหละ เล่นละครแบบนี้มันก็ต้องเปิดใจยอมรับ แอนก็ต้องยอมรับว่าใครจะติ๊กถูกให้แอนรึเปล่า ได้คะแนนเท่าไหร่ เราจับของแรงฟีดแบ็กมันก็ต้องเหวี่ยงมาแรงอยู่แล้ว ก็ถือว่าแรงสำหรับแอนนะ
แอนก็อยู่ในวัย อยู่ในจุดที่แอนแตะต้องได้แล้ว แต่ก็ต้องเว้นวรรคไว้นิดนึงว่าไม่รู้ว่าของบ้านเราตีความอย่างที่เราเห็นๆ รึเปล่า ความเป็นนักแสดงถ้าเขาไปได้ขนาดนั้น เราก็คงอยู่ในมาตรฐานสากลที่เราพอจะเล่นได้ในแถวๆ นั้น เพราะครรลองของบทมันพาไป”
เรื่องนี้เป็นความฝันของนักแสดงหลายคนเลย? “ก็ได้ยินมาจากที่มีการเปิดตัวว่าจะมีเวอร์ชั่นของไทย ก็มีนักแสดงหลายคนพูดว่าอยากเล่นบทนี้มาก”
มันคอมพลีตยังไงกับการเป็นนักแสดง? “มันก็ได้ทำอะไรอีกชั้นนึงที่เราไม่เคยได้ทำบ่อยๆ มันไม่ได้พูดถึงแค่เลิฟซีนด้วยนะ มันพูดถึงชั้นเชิงอะไรอีกเยอะแยะ ขนาดเราดูตอนนั้นก็ยังขนลุกตามกับฉากเปิดกระโปรงรถ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะเล่นได้อย่างเขาไหม แต่เราก็จะเล่นไปตามความรู้สึกเราโดน เราไม่รู้ว่าเราจะเล่นได้อย่างเขารึเปล่านะ เราก็เล่นไปตามความรู้สึกเรา”
กดดันไหม? “ไม่กดดัน เอาจริงๆ แอนเดินมาถึงจุดที่ว่าจิตใจเรามันตั้งรับได้ ไม่ใช่ว่าแอนแข็งแรงอะไรขนาดนั้นนะ แต่เรารู้ว่ามันต้องมีแหละยุคโซเชียล รีแอ๊กคนจะทันทีทันใด เราต้องตั้งรับ สมัย 90 ตอนนั้นกว่าฟีดแบ็กจะมาถึงคน
ละครก็ไปไหนต่อไหนแล้ว เล่นตอนนี้ด่าเดี๋ยวนี้ ชมเดี๋ยวนี้ มันตั้งรับได้ แต่ถามว่าเราโดนหยิกเราเจ็บไหมเรายังเจ็บ แต่เราก็ต้องเดินต่อ จะบอกว่าเราไม่รู้สึกเลยมันก็คงไม่ใช่ในทุกเรื่อง”
ตื่นเต้น? “ตอนนี้ยังนะ เอาจริงๆ แอนอาจจะปอดแหกเล่นไม่ได้ก็ได้ แอนไม่รู้ว่าเจออนันดา แอนอาจจะช็อกไปเลยก็ได้ หรืออาจจะไปเจอทีมแล้วเรารู้สึกกลายเป็นเด็กใหม่ไปเลยก็ได้ ด้วยความที่ไม่เคยเจอกัน”
อัพเดตเรื่องเท้า? “ยิ่งใหญ่บอกเลย ไม่รู้ตัวมาก่อน แอนไปฝึกวิ่ง เราอยากจะวิ่งให้เป็นเพื่อจะได้ไม่บาดเจ็บ ก็เลยไปเรียนวิ่งเบสิกการวิ่ง แล้ววันนั้นเหมือนเล่นท่าเดิมซ้ำๆ ประมาณชั่วโมงกว่าๆ แบบไม่หยุดเลย พอกล้บบ้านมาก็รู้สึกเจ็บมาก แต่ก็คิดว่าเราไม่ได้เป็นอะไรเพราะตอนเล่นเราไม่ได้เจ็บ แต่พอเล่นเสร็จเราเจ็บ เลยไปหาหมอหลายๆ ที่ เขาก็จับเขย่าแล้วบอกไม่หัก เลยไม่ได้เอกซเรย์ 3 หมอ
จนไปถึงมีหมอท่านนึงเห็นแอนให้สัมภาษณ์ แล้วโทร.มาหาว่ามาตรวจหน่อยไหม ทำไมยังไม่หาย พอไปถึงรู้ว่าสรุปแอนหัก แต่แคลเซียมมันเยียวยาตัวเอง มันรักษาตัวมันเอง แคลเซียมมาเกาะแล้วเหมือนเราฉีดฟิลเลอร์ที่หน้า พอแอนขยับเท้าเนื้อเยื่อมันก็อักเสบ กลายเป็นเรื้อรังมา 3 เดือน จะหายแล้วแหละ เพียงแต่ถ้ายืนนานมากๆ ก็จะเจ็บนิดหน่อย”
กลับมาออกกำลังกายได้? “เริ่มกลับมาแล้ว ตอนรู้คือใจเสียมาก เพราะกลัวว่าเราจะออกกำลังกายไม่ได้ แล้วที่สำคัญคือแอนเกรงใจพี่เคน (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) มาก เพราะในเรื่องมันต้องมีฉากที่แอนจะต้องวิ่งกับเขา
แล้วเขาต้องงดฉากนี้มา 2 เดือนแล้ว ยกกอง ก็เริ่มรู้สึกเกรงใจหนัง ไหนจะต้องบู๊อีก แล้วเรายังทำไม่ได้ พอเห็นสแตนอินมา เรารู้สึกหูย เสียมาก อยากเล่นเอง อุตส่าห์ทำงานมาขนาดนี้ แต่เราทำงานให้เขาไม่ได้”
“ก็พยายามจะกินแคลเซียม อัดยา เชื่อฟังหมอทุกอย่าง จนตอนนี้กลับมาเกือบ 100 แล้ว บอกเลยว่าถ้าเจ็บ ต้องไปเอกซเรย์นะ อย่าปล่อยไว้ ของแอนจริงๆ กระดูกเชื่อมแล้ว แต่พามันไปสะเทือนมาอีก ก็กลับมาระบมใหม่ ก็ยังไม่เลิกฝึกวิ่งนะ แต่รู้แล้วว่าแค่ไหนพอ จะเข็ดแล้ว เราคิดว่าเราเจ๋งไง ออกกำลังกายแค่นี้สบายมาก เราไม่รู้ว่าร่างกายเรามีลิมิต ก็เพิ่งรู้ตัว”
พี่เอว่าไง? “เขาเป็นแนวถ้าแอนทำอะไรผิดพลาดเขาก็จะซ้ำ เขาจะเตือนว่าอย่าซ่า เขาก็จะมีบางจังหวะมาช่วยหายามาให้ เขาก็เห็นใจแอนว่าแอนเริ่มนอยด์ ที่เราใส่ส้นสูงไม่ได้ พอโควิดเสร็จแอนก็มาขาหัก เป็นช่วงดวงตก ไม่ใช่ปีชงหรอก แต่ก็มาจังหวะนรกมาก กินยาจนตับจะพังอยู่แล้ว ไหนจะโควิดอีก”