วันที่ 11 ก.พ. บีบีซี รายงานว่า ทางการรัสเซียยืนยันว่า นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ปฏิเสธคำขอของรัสเซียในการตรวจโควิด-19 ก่อนพบนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพื่อหารือความตึงเครียดที่พรมแดนยูเครน เมื่อวันที่ 7 ก.พ.

แหล่งข่าวในคณะผู้ติดตามนายมาครงบอกว่า การตรวจโควิด-19 ของรัสเซียต้องใช้ระเบียบด้านสุขภาพที่ไม่เป็นที่ยอมรับและไม่สอดคล้องกับกำหนดการของผู้นำฝรั่งเศส หลังมีรายงานว่า นายมาครงปฏิเสธการตรวจโควิด-19 แบบพีซีอาร์ เนื่องจากกังวลว่ารัสเซียจะลักลอบเก็บข้อมูล ดีเอ็นเอ ของนายมาครง

สำหรับการหารือ สองผู้นำเว้นระยะทางสังคม โดยไม่จับมือกัน และนั่งคนละฟากของโต๊ะยาว 4 เมตร จนผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัยในตอนแรกว่า ทำไมนายปูตินสื่อสารข้อความทางการทูตด้วยวิธีการเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวทางการทูตของฝรั่งเศสบอกรอยเตอร์ว่า นายมาครงได้รับแจ้งในการเลือกระหว่างการยอมรับการตรวจโควิด-19 แบบพีซีอาร์ของรัสเซีย เพื่อหารือกับนายปูตินอย่างใกล้ชิดมากขึ้น หรือปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะทางสังคมที่เข้มงวด

“เราทราบดีว่าหมายถึงการไม่จับมือและโต๊ะยาวตัวนั้น แต่เราไม่สามารถยอมรับที่พวกเขาจะได้ดีเอ็นเอของประธานาธิบดีไป” แหล่งข่าวระบุแต่ไม่ได้แจงรายละเอียดว่าหน่วยข่าวกรองของรัสเซียสามารถใช้ประโยชน์จาก ดีเอ็นเอ ของนายมาครงได้อย่างไร

แหล่งข่าวที่ปาแลเดอเลลีเซ ทำเนียบประธานาธิบดี บอกบีบีซีว่า “เงื่อนไขที่กำหนดสำหรับการหารือจะเกิดขึ้นโดยไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม จำเป็นต้องมีระเบียบด้านสุขภาพ เป็นไปตามที่เรายอมรับและไม่สอดคล้องกับกำหนดการของประธานาธิบดี”

ด้านทำเนียบเครมลินยืนยันว่า นายมาครงรักษาระยะห่างจากผู้นำรัสเซียเนื่องจากปฏิเสธการตรวจโควิด-19 ของรัสเซีย นายดมีตรี เปสคอฟ โฆษกเครลมินระบุว่า รัสเซียเข้าใจจุดยืนของฝรั่งเศสและไม่กระทบต่อการเจรจา

แหล่งข่าวทางการทูตอีกคนบอกรอยเตอร์ว่า นายมาครงตรวจโควิด-19 แบบพีซีอาร์ก่อนออกจากฝรั่งเศส และแพทย์ประจำดำเนินการตรวจแอนติเจนเมื่อมาถึงกรุงมอสโก ส่วนแหล่งข่าวอีกคนบอกว่า รัสเซียแจ้งว่านายปูตินต้องอยู่ภายใต้การป้องกันด้านสุขภาพที่เข้มงวด

อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่า 3 วันหลังหารือกับนายมาครง นายปูตินเปิดทำเนียบต้อนรับนายกาซิม โจมาร์ต โตคาเยฟ ประธานาธิบดีคาซัคสถาน โดยทั้งคู่จับมือกันและนั่งหารือโดยมีโต๊ะกาแฟตัวเล็กคั่นกลางเท่านั้น