แรมโบ้ ทิ้งทวนงานสุดท้าย ประชุมมีมติแก้หวยแพง ส่งคณะกรรมการชุดใหญ่ 27 เม.ย.นี้ ได้ข้อสรุป 3 ข้อ คัดสรรผู้ค้านอกระบบ ขายสลากทั่วประเทศ และใช้ระบบคิวอาร์ดโค้ด
วันที่ 18 เม.ย.2565 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคากว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล แถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาสลากฯเกินราคา หลังประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ว่า ที่ประชุมได้มีมติ จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการฯ ที่มีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในวันที่ 27 เม.ย.นี้
อ่านข่าว ‘แรมโบ้’ ประกาศลาออก ผู้ช่วยรมต.ประจำนายกฯ รับผิดชอบปมคลิปหวย
ทางพ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันวันนี้ 1.การคัดสรรผู้ค้านอกระบบ โดยจากการสำรวจ 1 เดือนที่ผ่านมา พบผู้ค้าทั้งหมดโดยแบ่งเป็นผู้ค้าในระบบ 3,000 กว่าราย และผู้ค้านอกระบบ 4,367 ราย โดยในกลุ่มนี้ไม่มีสลากเป็นของตนเองทั้งระบบซื้อจองหรือโควตา เขาใช้วิธีไปซื้อสลากมาขายต่อ จึงต้องขายในราคาเกินกว่ากำหนด มติของที่ประชุมจึงจะนำรายชื้อผู้ค้านอกระบบทั้งหมดให้คณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบอร์ดกองสลากให้ผู้ค้ากลุ่มนี้ได้รับสิทธิ์โควตากองสลาก เพื่อได้สลากในราคาต้นทุน คาดว่ากว่าจะถึงวันเสนอชื่อจะมีเป็นหมื่นราย
2.การจำหน่ายโครงการสลาก 80 บาท 1,000 จุดทั่วประเทศที่ในส่วนของระดับอำเภอยังขาดผู้สมัครอยู่ ซึ่งสลากได้เดินทางไปแล้วทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ยังไม่ครบทุกอำเภอ ขณะนี้ขาดไป 300 กว่าอำเภอ จาก 900 อำเภอทั่วประเทศ ที่ประชุมจึงมีมติว่าตามโครงการเดิมเราใช้รูปแบบให้สิทธิ์แก่ตัวแทนสมัครเข้ามา แต่เมื่อตัวแทนไม่สมัครเราจะขยับไปให้สิทธิ์ผู้ซื้อจอง แต่หากผู้ซื้อจองไม่สมัครก็เป็นผู้ค้านอกระบบ
3. ตนได้เสนอที่ประชุมทราบความคืบหน้าในโครงการที่ดำเนินการมาแล้ว เช่น โครงการผู้ลงทะเบียนในส่วนซื้อจองปี 2558 ที่มียอดทั้งสิ้น 1.2 แสนกว่าราย ที่ทางสำนักงานกองสลากให้ทดลองสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงสมัครขายผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังและถุงเงิน ซึ่งจากตัวเลข 1.2 แสนรายเขาไปใช้สิทธิ์ดึงคิวอาร์โค้ดของตัวเองจากระบบ
เราสามารถตรวจสอบได้ 60,000 กว่าราย หรือคิดเป็น 50% รวมทั้งไปสมัครแอปพลิเคชันถุงเงินอีก 80,000 กว่าราย หรือคิดเป็น 67% ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าผู้ขายเริ่มมีความตื่นตัวสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้
1 เดือนที่ผ่านมามีการรายงานการสแกนคิวอาร์โค้ดที่แผงจุดขาย ซึ่งสำนักงานสลากฯได้เก็บข้อมูลไว้ 3 ล้านกว่าครั้ง คิดเป็น 53,000 กว่ารายที่ซื้อสลากได้ในราคา 80 บาท นี่เป็นตัวเลขยืนยันว่าที่ผ่านมามีสลาก 80 บาท และมีตัวเลขอย่างน้อยที่เก็บได้ 53,000 กว่ารายทั่วประเทศ ขณะที่ในเรื่องของแพลตฟอร์มเราจะเริ่มในงวดวันที่ 16 มิ.ย.นี้