แม่ผัวฆ่าลูกสะใภ้ เผยฟางเส้นสุดท้ายโดนด่า 2 คำ คว้ามีดปักหน้าอกแล้วดึงออก

Home » แม่ผัวฆ่าลูกสะใภ้ เผยฟางเส้นสุดท้ายโดนด่า 2 คำ คว้ามีดปักหน้าอกแล้วดึงออก
แม่ผัวฆ่าลูกสะใภ้ เผยฟางเส้นสุดท้ายโดนด่า 2 คำ คว้ามีดปักหน้าอกแล้วดึงออก

แม่ผัวฆ่าลูกสะใภ้ เผยฟางเส้นสุดท้ายโดนด่า 2 คำ คว้ามีดปักหน้าอกแล้วดึงออก เดินไปบอกลูกชายเรียบๆ “แม่แทงเมียเอ็ง”

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 5 ม.ค.2567 ร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี รองสารวัตรสอบสวนสภ. คลองหลวง ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันตาย ที่เกิดเหตุภายในหอพักไม่มีชื่อ ภายในซอยนครชัย 1 หมู่ 13 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมทั้งรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 1 และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุเป็นหอพักสูง 5 ชั้น ที่บริเวณชั้น 4 หน้าห้อง 405 เจ้าหน้าที่พบศพ นางสาวฐิตาภา อายุ 30 ปี นอนหงายอยู่หน้าห้อง มีเลือดไหลนองพื้น สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว นุ่งกางเกงขายาวสีดำ จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่าถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าที่บริเวณหน้าอกซ้ายคมมีดถูกอวัยวะสำคัญเป็นเหตุให้เสียชีวิต ภายในห้องพักพบมีดทำครัวปลายแหลมตกอยู่ 1 เล่ม โดยที่พื้นห้องพบรอยเลือด

นางศศิธร อายุ 53 ปี ผู้ดูแลหอพัก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ แม่ผัวและลูกสะใภ้คู่นี้ทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ส่วนใหญ่จะทะเลาะกันอยู่ภายในห้อง ที่ตนรู้มา ตัวแม่ผัวเป็นโรคซึมเศร้า และไม่ได้ทำงาน โดยผู้ตายเป็นคนทำงานอยู่คนเดียว ส่วนแฟนคนตายก็ไม่ได้ทำงาน ส่วนค่าห้องไม่เคยค้างแต่ว่ามักจะจ่ายช้า

นางลำใย  อายุ 54 ปี แม่ผัว กล่าวว่า ลูกสะใภ้มักชอบด่าตนเองทุกวัน ด่าแบบนี้ทุกวัน ตนเองก็เงียบมาตลอด ไม่เคยตอบโต้เลย จนวันนี้สุดจะทน เลือดขึ้นหน้า เพราะเขาด่าว่า ตอแหล ก็เลยคว้ามีดมา จากนั้นลูกสะใภ้ก็ยกมือไหว้บอกว่าแม่จะฆ่าหนูหรอ ถ้าแม่จะฆ่าหนูฆ่าเลย ตนเองก็เลยปักมีดลงไปที่หน้าอกก่อนที่จะชักออก แล้วก็เดินลงมาข้างล่างมาบอกลูกชายให้ขึ้นไปดูพร้อมพูดว่า แม่แทงเมียเอ็ง

ก่อนที่จะขึ้นไปที่ห้องอีกรอบ ช่วยกันลากลูกสะใภ้ออกมาเพื่อจะนำส่งโรงพยาบาล เมื่อลงมาหารถก็ไม่มีรถที่จะเคลื่อนย้ายคนเจ็บ จึงขาดใจอยู่ตรงนั้น ส่วนตนได้นำมีดเอาไปล้างเลือด และรอพบตำรวจ

ร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี รองสารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสภาคลองหลวง ได้ทำการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ และลูกชาย ไปที่ สภ.เพื่อสอบสวน และให้ร้อยเวรบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานก่อนที่จะเรียกเจ้าที่พิสูจน์หลักฐาน มาทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุจากนั้นจะได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่งผ่าพิสูจน์ยังนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป  

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ