แม่ค้าบ่นอุบ หมูแพง ขายไม่ออก ซ้ำจ่อถูกเรียกเก็บภาษี โครงการคนละครึ่ง ในขณะที่เนื้อจระเข้ เริ่มขายดี ลูกค้าหลายคน ติดใจรสชาติ
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ที่ตลาดอัศวิน เทศบาลนครลำปาง จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้ตลาดเงียบเหงาไม่มีผู้คนมาเดินซื้อของมากแบบเมื่อก่อน เนื่องจากสถานการณ์ โควิด-19 และสินค้า หมูเนื้อมีราคาแพงขึ้น จึงนิยมสั่งอาหารผ่านไรเดอร์มากกว่า
เจ้าของร้านเจ๊นงหมูสด ตลาดอัศวิน กล่าวว่า ช่วงนี้มีผู้คนมาเดินจับจ่ายซื้อของที่ตลาดน้อยมาก มองไปทางไหนก็มีแต่แม่ค้าด้วยกันเอง ทั้งที่ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดใหญ่อยู่ใจกลางเมือง แต่ทุกวันนี้เหมือนตลาดร้าง ค้าขายก็ไม่ค่อยดี ปกติขายหมูได้วันละ 5-6 ตัว ทุกวันนี้ขายตัวเดียวก็ไม่หมด ตนรับหมูมาชำแหละเนื้อขาย กก.ละ 220-240 บาท ลูกค้าก็บ่นว่าแพงแต่เราก็ซื้อมาแพงเหมือนกัน
ด้านร้านน้องนุ้ยเนื้อหมูกระทะ กล่าวว่า ทุกวันนี้ราคาหมูแพงขึ้น วัตถุดิบทุกอย่างขึ้นราคา จากเดิมขายเนื้อหมูสไลด์ หมูหมัก ราคา กก.ละ 180 บาท ทุกวันนี้เพิ่มราคาเป็น กก.ละ 200 บาท เนื่องจากอั้นราคาไม่ไหว ลูกค้าที่มาซื้อประจำก็เห็นใจ ซ้ำยังมาถูกรัฐบาลรีดภาษีจากการเข้าโครงการคนละครึ่ง
โดยภายในสิ้นเดือนมกราคม นี้ทางเจ้าหน้าที่สรรพากรจ.ลำปาง มีหนังสือแจ้งมาให้ไปชี้แจงรายได้ จากการขายเนื้อหมูหมัก หมูกระทะ เพื่อหักภาษี เงินทองยิ่งหายาก เห็นผู้ที่เข้าร่วมโครงการบ่นกันหลายราย ทำไมรัฐบาลไม่แจ้งตั้งแต่แรกว่าคนที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งจะมีการหักภาษีรายได้
ด้านร้านบีที ทะเลสด เปิดเผยว่า ในช่วงที่เนื้อหมูแพง ทางร้านได้สั่งเนื้อจระเข้มาจำหน่ายเฉลี่ยวันละ 10 กก. ซึ่ง ร้านค้าขาประจำ และลูกค้าหลายรายสั่งไปประกอบอาหารแล้วติดใจในรสชาติ กลายเป็นลูกค้าขาประจำ โดยนำเนื้อจระเข้ไปผัดเผ็ด ผัดกะเพรา หรือผัดน้ำมัน ก็อร่อย รสชาติจะคล้ายเนื้อไก่ แต่มีความฉ่ำกว่า
โดยทางร้านจะสั่งจากฟาร์ม จ.ราชบุรี 2-3 วันต่อครั้ง ๆ ละ 1 ตัว ตัวละประมาณ 16-18 กก.ราคาตัวละ 1,200-1,300 บาท โดยชำแหละขายเป็นเนื้อรวมราคา กก.ละ 150 เท่านั้น ผู้สนใจสามารถซื้อที่ร้านได้ เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น.