จากกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความในโลกออนไลน์ว่า สวนเสือศรีราชา จ.ชลบุรี แลนด์มาร์กทางการท่องเที่ยวในพื้นที่มานานกว่า 24 ปี ยอมพ่ายต่อพิษเศรษฐกิจจากการระบาดของโควิด -19 และได้ประกาศปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. 2564 รวมทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อความประกาศเลิกกิจการพร้อมนัดประชุมพนักงานทั้งหมดในเวลา 14.00 น.วันที่ 3 พ.ค.ที่จะถึงนี้ที่บริเวณลานโชว์ช้างภายในสวนเสือศรีราชา ทำให้ประชาชนนักท่องเที่ยวต่างเป็นห่วงกับการประกาศที่ออกมาจากเพจสวนเสือศรีราชานั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายสุเมธ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ผู้จำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากจระเข้ รวมทั้งยังเป็นฟาร์มเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดใหญ่ของ จ.ชลบุรี และเป็นเจ้าของที่ตั้งสวนเสือศรีราชา ถึงกระแสข่าวการเลิกกิจการว่า ไม่เป็นความจริงพร้อมยืนยันว่าการปิดบริการของ “สวนเสือศรีราชา” เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แค่ 14 วัน ตามนโยบายป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้นของคณะกรรมการป้องกันโรคติดต่อ จ.ชลบุรี หลังถูกยกระดับพื้นที่ให้เป็นสีแดงเข้ม
บริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ได้เทคโอเวอร์ธุรกิจสวนเสือศรีราชาจากผู้บริหารเดิมมานานถึง 10 ปีแล้ว และในทุกวันนี้ผู้บริหารเดิมได้เช่าพื้นที่ดำเนินการแบบปีต่อปี ซึ่งเรายืนยันว่าจะไม่มีการปิดกิจการแน่นอน เพราะสวนเสือศรีราชา เป็นที่รู้จักมานานกว่า 24 ปี ซึ่งเมื่อมีกระแสข่าวเกิดขึ้นเราได้แจ้งไปยังผู้บริหารเดิมแล้วว่า ให้เอาข้อความออกเพราะอย่างไรเราก็จะทำต่อ
พร้อมยังบอกอีกว่าหลังเกิดวิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่ระลอกแรกที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวหลักซึ่งเป็นชาวจีนกลายเป็นศูนย์ แต่สัตว์ทุกชนิดที่อยู่ภายในสวนเสือศรีราชา ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยมีทั้งผู้เลี้ยงและอาหารให้กินทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็นเสือที่มีอยู่กว่า 400 ตัว ช้างอีกกว่า 300 ตัว จระเข้ที่อยู่ในฟาร์มนับแสนตัว รวมทั้งพนักงานทั้งหมดยังคงได้รับการดูแลเพื่อรอโอกาสที่จะได้กลับมาเปิดบริการเต็มรูปแบบอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลายอีกครั้ง
“วิกฤตโควิด-19 ทำให้สวนเสือศรีราชาแทบจะเปิดบริการไม่ได้อยู่แล้วเพราะไม่มีนักท่องเที่ยว แต่เราก็ไม่เคยมีแนวคิดที่จะปิด ซึ่งหากหมดสัญญาเช่าพื้นที่ แล้วเจ้าของเดิมไม่ทำต่อ เราก็จะรับดูแลทั้งหมด และยังมีแนวคิดที่จะรีโนเวทสวนเสือศรีราชา ให้เป็นศูนย์รวมทางการท่องเที่ยวแบบครบวงจรที่จะมีทั้ง คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์รวมร้านอาหาร-ร้านกาแฟชื่อดังและจะเพิ่มจุดขายทางการท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดคนไทยให้เข้าพักมากขึ้น”
นายสุเมธ ยังเผยอีกว่า แม้ที่ผ่านมา สวนเสือศรีราชา แทบจะไม่ได้เปิดรับนักท่องเที่ยวจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ในส่วนของบริษัท ศรีราชาฟาร์มจระเข้และผลิตภัณฑ์ จำกัด ที่เปิดพื้นที่ด้านหน้าเป็นแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากจระเข้ทั้ง กระเป๋าหนังจระเข้ เนื้อจระเข้ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและอื่นๆ ก็ยังคงเปิดบริการตามปกติ
“ในช่วงที่ยังไม่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากจระเข้จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าซื้อสินค้าไม่น้อยกว่า 300-500 คนและมีรายได้จากการจำหน่ายถึงหลักล้านบาทต่อวัน รวมทั้งยังสามารถส่งออกเนื้อจระเข้ไปยังประเทศญี่ปุ่นและจีนจนสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้หลายพันล้านบาท
แต่ขณะนี้ยอดสั่งซื้อจากต่างประเทศหายไปกว่า 50% จากการชะลอใช้จ่ายของคู่ค้า แต่อย่างไรก็ดียังพอมีกำลังซื้อจากคนไทยที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์จากหนังจระเข้จนมีรายได้เลี้ยงพนักงานแต่ก็ยังไม่มากนัก
วันนี้เฉพาะค่าใช้จ่ายในฟาร์มจระเข้ศรีราชาเพียงแห่งเดียว ทั้ง ค่าอาหารจระเข้ เงินเดือนพนักงานเราต้องแบกรับมากถึง 10 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์จากจระเข้มีประมาณ 30% นอกจากนั้นเรายังจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าลง 70 เพื่อกระตุ้นยอดขายสำหรับกลุ่มลูกค้าชาวไทยอีกด้วย”