แพทย์ชี้! เด็ก 14 กราดยิง พารากอน ยังไม่พร้อม ควรพบจิตแพทย์ก่อน

Home » แพทย์ชี้! เด็ก 14 กราดยิง พารากอน ยังไม่พร้อม ควรพบจิตแพทย์ก่อน

แพทย์เข้าตรวจสอบอาการเบื้องต้น เยาวชนวัย 14 ปี ผู้ก่อเหตุยิงกลาง พารากอน ยังไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการสอบสวน

สืบเนื่องจากกรณีเหตุระทึกเมื่อช่วงเย็นที่ผ่าน วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เมื่อมีผู้ใช้โซเชียลได้แชร์ข่าวว่า ได้ยินเสียงคล้ายปืนดัง ภายในห้างสรรพสินค้ากลางเมืองอย่าง สยามพารากอน โดยเสียงนั้น ดังมาจากห้องน้ำชายชั้น G และมีการพบตัวผู้ก่อเหตุที่บริเวณ ชั้น 2 ซึ่งระหว่างนั้นผู้ใช้บริการห้างได้วิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวคนร้าย ซึ่งเมื่อสอบถามเบื้องต้น พบว่า ผู้ก่อเหตุมีอายุเพียง 14 ปี เป็นเยาวชน และมีอาการป่วยทางจิต โดยคนร้ายทิ้งอาวุธและยอมมอบตัว อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อ กล็อก 19 ซึ่งจากการรายงานพบว่าคนร้ายเป็นเยาวชน อายุ 14 ปี ควบคุมตัวได้ บริเวณชั้น 3 โรงแรมสยามแคมปินสกี้

เหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาวจีน 1 ราย เสียชีวิตบริเวณชั้น G ส่วนชาวเมียนมาร์ 1 รายเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน

จากการตรวจสอบ พบประวัติรักษาจิตเวชอยู่โรงพยาบาลราชวิถี เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังไม่สามารถสอบปากคำได้ เนื่องจากมีอาการเบลอ ระบุว่า มีคนมาพูดว่าต้องยิงคนนู้นคนนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดต่อผู้ปกครอง เนื่องจากไปตรวจสอบที่บ้านพักยังไม่เจอพ่อแม่

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า เรื่องสอบปากคำต้องขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน ทั้งนี้ได้นำตัวไปยังสน.ปทุมวัน เพื่อสอบปากคำพร้อมสหวิชาชีพ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุไม่ขอเปิดเผย

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยอีกว่า จากการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้จักหลัก “หนี ซ่อน สู้” หรือ “Run Hide Fight” นำมาใช้แนะนำประชาชนในการเอาชีวิตรอดในเหตุกราดยิง ทำให้พนักงานของห้างรู้ขั้นตอนว่าจะต้องไปหลบซ่อนตัวที่ไหน เพื่อให้ตัวเองปลอดภัย และทางห้างได้มีการฝึกซ้อมอยู่เป็นประจำทุก 3 เดือน ทำให้ตำรวจสามารถเข้าช่วยเหลือและลำเลียงประชาชนอย่างมีขั้นตอน ขณะเดียวกันก็ต้องปิดล้อมพื้นที่เพื่อเข้าระงับเหตุ

เปิดมูลเหตุ! เด็ก 14 ปี หลังพกอาวุธบุกยิงกลาง พารากอน เบื้องต้นมีอาการหลอน

แพทย์ชี้ควรรักษาอาการทางจิตก่อน

และ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 เผยว่า จากการที่ได้เชิญแพทย์มาประเมินอาการเบื้องต้น พบว่า ผู้ก่อเหตุยังไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ควรเข้ารับการรักษาอาการป่วยทางจิตก่อน โดยมีพ่อของผู้ก่อเหตุเข้ามารับฟังด้วย

ทั้งนี้ในคืนที่ผ่านมาผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจ โดยพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุม แต่มีวิธีการควบคุมที่อาจจะไม่ต้องคุมตัวในห้องคุมขัง เนื่องจากผู้ต้องหามีอาการเครียด และยังเป็นเยาวชน โดยวันนี้ 4 ตุลาคม 2566 จะมีการนำส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้ศาลไต่สวนการจับกุม และให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้ก่อเหตุไปรักษาตัว โดยอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐต่อไป