ไฟคลอกยาย 73 เสียชีวิตคาทุ่งนา พากันมาเผาตอซังข้าว วางแผนยืนอยู่คนละมุมก่อนจุดไฟเผา เกิดลมกระโชกเปลี่ยนทิศหนีไม่ทัน นายกอบต.เศร้า บอกเตือนแล้วไม่ฟัง ทำเจ้าของไร่ติดกันเดือดร้อนไปด้วย
วันที่ 15 มี.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุไฟไหม้ทุ่งนามีหญิงชราถูกไฟคลอกเสียชีวิต บริเวณกลางทุ่งนาในพื้นที่ ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลปราสาท แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.บ้านด่าน ฝ่ายสืบสวน แพทย์รพ.บ้านด่าน และหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม
ที่เกิดเหตุพบไฟลามไหม้ทุ่งนาและไร่อ้อย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งฉีดน้ำสกัดไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้างจนไฟดับ โดยพบศพหญิงอายุ 73 ปี สภาพถูกไฟคลอกตามร่างกาย โดยมีครอบครัวอยู่ในอาการเสียใจ
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุพากันมาจุดไฟเผาตอซังข้าวเพื่อให้โล่งเตียน โดยยืนอยู่คนละจุดแล้วจุดไฟพร้อมกันพร้อมคอยเฝ้าระวังไม่ให้ลามไร่อ้อยที่อยู่ติดกัน แต่ปรากฎว่ามีลมกระโชกแรงเปลี่ยนทิศทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วควันไฟคละคลุ้งมองไม่เห็นกัน เมื่อควันจางลงก็เห็นผู้ตายถูกไฟคลอกนอนเสียชีวิต จากนั้นเจ้าหน้าที่นำศพส่งรพ.พร้อมสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่นายสัญญา ชาญวิเศษ นายกอบต.วังเหนือ ระบุ ที่ผ่านมาทั้งผู้นำ 3 ตำบลในพื้นที่ติดกันมีการจับมือรณรงค์ไม่ให้ชาวบ้านจุดไฟเผาตอซังข้าวและอ้อย เพื่อไม่ให้เกิดฝุ่นพิษที่กำลังจะรุนแรงอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งขอความร่วมมือโรงงานน้ำตาลไม่ให้รับซื้ออ้อยที่ถูกไฟไหม้
“ทำให้เกษตรกรไม่กล้าเผา เสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตและเสียดายอ้อยของเกษตรกรที่อยู่ติดกัน ไม่รู้ว่าโรงงานจะรับซื้อหรือไม่ถูกไฟเผาไป 3-5 ไร่ ขอเตือนเผาตอซังข้าวได้ไม่คุ้มเสีย แทนที่จะได้ปุ๋ยจากตอซังข้าวกลับต้องมาสูญเสียชีวิตคน”