เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ ( 10 พ.ค. 2567 ) ที่บริเวณอนุสาวรีย์พระศรีนครเตาท้าวเธอ ริมถนนสายอำเภอรัตนบุรี – จ.ศรีสะเกษ ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนแรกของอำเภอรัตนบุรี ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงเปลี่ยนเครื่องทรงใหม่ เนื่องในงานประเพณีบุญบั้งไฟ ประจำปี 2567 ซึ่งเป็นงานประเพณีที่ชาวอำเภอรัตนบุรี ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีติดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ โดยมี นายตวงอัฐ บุตรวิชา นายอำเภอรัตนบุรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวีระ เทพวงศ์ศิริรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลรัตนบุรี และหัวหน้าส่วนราชการในอำเภอรัตนบุรี ประชาชนชาวอำเภอรัตนบุรี และอำเภอใกล้เคียงมาร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก
โดยในพิธีได้มีการจัดพิธีสงฆ์ และพิธีพราหมณ์ พร้อมเครื่องสักการะมากมาย ที่ประชาชนและผู้ศรัทธา ได้ร่วมกันนำมาถวาย ซึ่งหลังจากพิธีสงฆ์เสร็จ ก็ได้มีการขึ้นไปเปลี่ยนเครื่องทรงใหม่ให้กับองค์พระศรีนครเตาท้าวเธอ ซึ่งเป็นผ้าสีแดง โดยมีนายตวงอัฐ บุตรวิชา นายอำเภอรัตนบุรี และนายวีระ เทพวงศ์ศิริรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลรัตนบุรี พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ได้เป็นตัวแทนขึ้นไปเปลี่ยนเครื่องทรงให้ และหลังจากเปลี่ยนเครื่องทรงเสร็จ ก็ได้มีพิธีพราหมณ์ โดยมีการจุดธูปเทียนบูชาเครื่องสักการะ ซึ่งก็ได้เป็นไปตามธรรมเนียมปฎิบัติกันมาทุกปี โดยได้มีการจุดธูปเสี่ยงทายด้วย และก็เป็นที่ฮือฮากันเป็นอย่างมาก เพราะธูปเสี่ยงทายให้เลขเด็ด ที่ตรงกับเลขดังในพื้นที่ คือ เลข 896 และ 797 แต่เลขที่เป็นที่ฮือฮาเป็นอย่างมากกว่าก็คือเลขหางประทัดที่จุดขึ้นภายหลังจากเสร็จพิธีพราหมณ์ นั่นก็คือเลข 132 ทำเอาแผงขายลอตเตอรี่ที่มารอจำหน่ายอยู่ในบริเวณงานกว่า 10 แผงถึงกับแตกฮือ เพราะมีคอหวยมาแย่งกันซื้อเลขเด็ดในครั้งนี้จนเกลี้ยงแผง โดยเฉพาะเลข 132 ซึ่งเป็นเลขหางประทัด เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเลขนำโชคของทุกปี ที่มีพิธีบวงสรวงในงานประเพณีบุญบั้งไฟประจำปี ทำเอาเลขเด็ดทั้งหมดที่มีในพิธีครั้งนี้ ขายหมดเกลี้ยงแผงไปภายในพริบตา
หลังจากนั้นก็ได้มีการรำถวาย โดยลูกหลานชาวอำเภอรัตนบุรีจำนวน กว่า 100 ชีวิต เพื่อเป็นการบวงสรวงเปิดงานประเพณีบุญบั้งไฟประจำปี 2567 ซึ่งได้มีการจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 – 12 พ.ค. 2567 ที่บริเวณสวนอนุสาวรีย์พระศรีนครเตาท้าวเธอ โดยในวันพรุ่งนี้ ( 11 พ.ค. 2567 ) เวลา 09.00 น. จะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมขบวนแห่บั้งไฟ จากบริเวณหน้าวัดกลางอำเภอรัตนบุรี ไปยังบริเวณสวนอนุสาวรีย์พระศรีนครเตาท้าวเธอ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานในครั้งนี้ อย่างยิ่งใหญ่ตระการตา
สำหรับเมืองรัตนบุรีนั้น ตั้งขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ.2325 พร้อมๆ กับการตั้งกรุงเทพมหานครซึ่งผู้ก่อตั้งเมืองคือ หลวงศรีนครเตาท้าวเธอ ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าพ่อศรีนครเตาท้าวเธอ” (พระศรีนครเตาท้าวเธอ) ท่านมีนามเดิมว่า “เชียงสี” ต่อมาได้เป็น “หลวงศรีนครเตา” และได้ขอพระราชทานนามเมืองใหม่นี้ว่า “เมืองรัตนบุรี” ซึ่งมีที่ตั้งอยู่บนฝั่งห้วยแก้วและได้ใช้ชื่อนี้สืบมาจนทุกวันนี้
สำหรับประวัติ “เจ้าพ่อพระศรีนครเตาท้าวเธอ” คือบรรพบุรุษท้องถิ่นที่มีตำนาน เรื่องเล่า และเรื่องราวปาฏิหาริย์ต่างๆสืบกันมา ตั้งแต่ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งปรากฏในพระราชพงศาวดารที่เมืองหลวงต่างๆ ของท้องที่โดยกล่าวถึงชาติพันธ์ภูยหรือกุย ที่รับอาสาจับข้างเผือกในเขตที่เรียกว่าเขมรป่าดง ในพื้นที่ฝั่งในของลำน้ำมูล โดยได้เข้าร่วมในการคล้องข้างเผือกกลุ่มหนึ่งได้ จึงได้รับพระราชทานตำแหน่งเป็นเจ้าเมืองในแถบนี้ และหนึ่งในนั้น คือ “เชียงสี” ได้เป็น “พระศรีนครเตาท้าวเธอ” เป็นเจ้าเมืองปกครองเมืองรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เป็นคนแรก
เจ้าพ่อพระศรีนครเตา จึงได้ถือว่าเป็นมหาบุรุษแห่งทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นที่เคารพนับถือของขาวทุ่งกุลา ร้องไห้ ซึ่งกระจัดกระจายอยู่หลายหมู่บ้าน เช่น บ้านเมืองเตา ตำบลเมืองเตา อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม, บ้านเมืองเสือ ตำบลเมืองเสือ อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม, บ้านหนองบัวเจ้าป่า เทศบาลอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์, บ้านไพลา ตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ โดยท่านได้สร้างคุณงามความดีไว้มากมาย ให้ชาวเมืองได้ระลึกถึงตราบมาจนทุกวันนี้