กรมการขนส่งทางบก ประกาศลดภาษี 90% ให้กับรถแท็กซี่ และรถจยย.รับจ้าง ที่ครบกำหนดเสียภาษีตั้งแต่ 1 ต.ค. 65 ถึง 30 ก.ย. 66 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2565 นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)​ เปิดเผยถึง พระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปี สำหรับรถยนต์รับจ้างและรถจยย. สาธารณะ พ.ศ. 2565 ว่าพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ออกมาเพื่อช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19

ประกอบกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งกรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการออกมาตรการช่วยเหลือ ผู้ขับรถยนต์รับจ้างและรถจยย. สาธารณะ ตามนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.กระทรวงคมนาคม โดยพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

สำหรับสาระสำคัญของพระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) รถยนต์ 3 ล้อรับจ้าง รถยนต์ 4 ล้อเล็กรับจ้าง และรถจยย. สาธารณะ ที่ครบกำหนดเสียภาษีประจำปี ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 65 ถึง 30 กันยายน 66 ให้ปรับลดภาษีลง 90% จากอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522

เช่น รถแท็กซี่ น้ำหนักรถ 1,300 กก. เดิมจัดเก็บภาษี 685 บาท ลดเหลือ 68.50 บาท หรือน้ำหนักรถ 2,100 กก. เดิมจัดเก็บภาษี 1,250 บาท ลดเหลือ 125 บาท รถยนต์ 3 ล้อรับจ้างเดิมจัดเก็บภาษี 185 บาท ลดเหลือ 18.5 บาท รถจยย. รับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 100 บาท ลดเหลือ 10 บาท เป็นต้น

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคม และ ขบ. ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์โรคระบาด และปัญหาเศรษฐกิจที่มีต่อรายได้ในการดำรงชีพ ของผู้ประกอบอาชีพขับรถยนต์รับจ้าง และรถจยย. สาธารณะ จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะก่อนหน้านี้

เช่นมอบเงินช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่ และรถจยย. สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกอบอาชีพ ขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (29 จังหวัด) เป็นต้น