แฉพระวัดดัง เสพเมถุน-ลักทรัพย์บริจาค งัดหลักฐานร้องเจ้าคณะอำเภอสอบ

Home » แฉพระวัดดัง เสพเมถุน-ลักทรัพย์บริจาค งัดหลักฐานร้องเจ้าคณะอำเภอสอบ


แฉพระวัดดัง เสพเมถุน-ลักทรัพย์บริจาค งัดหลักฐานร้องเจ้าคณะอำเภอสอบ

ชาวบ้าน ยื่นหนังสือร้อง เจ้าคณะอำเภอปาย สอบพระวัดดัง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เสพเมถุน-ลักทรัพย์บริจาค หลังรวบรวมพยานหลักฐานนานนับปี

วันที่ 3 ก.ค.2565 น.ส.จุไรรัตน์ กันทาสุข ผู้ใหญ่บ้านแม่เย็น ม.1 ต.แม่ฮี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พระคุณเจ้าท่านพระครูอนุสาร ปุญญาคม เจ้าคณะอำเภอปาย และ พระครูอนุสรณ์ จารุวรรณ เจ้าคณะตำบลเวียงหนือ เจ้าอาวาสวัดแม่ปิง พร้อมด้วยเอกสารสำเนาภาพถ่ายหลักฐานการประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัยการลวนลามหญิงสาวที่ไปดูดวง จากกล้องวงจรปิดของวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน และคลิปวีดีโอการลักทรัพย์ในตู้เซฟรับบริจาคเงินของวัด

ด้วย ชาวบ้านบ้านแม่เย็น ได้มีการร่ำลือและกล่าวถึงพฤติกรรมของพระรูปหนึ่งเกี่ยวกับการประพฤติกรรมปฏิบัติตนไม่เหมาะสม ที่อาจเป็นความผิดต่อพระธรรมวินัยของสงฆ์ จนอาจทำให้ต้องอาบัติปาราชิก ซึ่งเป็นเหตุให้ต้องสละสมณเพศเนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าว จนนำไปสู่การเฝ้าระวัง และติดตามดูพฤติกรรมของพระสงฆ์รูปดังกล่าวที่ชาวบ้านที่ศรัทธาในวัดได้ร่วมกันสอดส่องดูแลเรื่อยมา

ทั้งการเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวด้วยตาเปล่า และเห็นภาพพฤติกรรมจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งภายในวัด จึงทำให้รู้และทราบถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจากการกระทำความผิดต่อพระธรรมวินัยของสงฆ์ ที่พระสงฆ์รูปดังกล่าวได้ประพฤติปฏิบัติมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกิดพยานหลักฐานที่ชาวบ้านเห็นว่าหากปล่อยให้มีการประพฤติปฏิบัติแบบนี้ต่อไป ก็จะก่อให้เกิดการเสื่อมเสียแก่ทางวัดและชุมชน

รวมถึงก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของคณะสงฆ์อำเภอปายที่ ได้ประพฤติปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในการเป็นแบบอย่างทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชน ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้แก่ อ.ปาย เรื่อยมา

ชาวบ้านจึงร่วมกันปรึกษาหารือและมีความเห็นว่าควรแจ้งเหตุนี้ให้ทางพระคุณเจ้าท่านเจ้าคณะอำเภอปายได้รับทราบ โดยการทำหนังสือร้องเรียนเพื่อแถลงให้ท่านเจ้ากณะอำเภอปายรับทราบถึงมูลเหตุแห่งการร้องเรียนมาในหนังสือฉบับนี้ และขอส่งพยานหลักฐานที่ใช้ประกอบการพิจารณาไต่สวนความผิดต่อพระธรรมวินัยของพระสงฆ์รูปดังกถ่าวที่ชาวบ้านช่วยกันเก็บรวบรวมมาเป็นระยะเวลานานหลายปี ซึ่งเกิดขึ้นต่างกรรมต่างวาระกัน ประกอบด้วยพยานหลักฐานที่ชาวบ้านเห็นว่าน่าจะเป็นความผิดทั้งในด้านของเมถุนธรรม และอทินนาทาน

พฤติกรรมที่มีความประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัยโดยการเสพเมถุน ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมที่มีต่อสตรีเพศอย่างไม่เหมาะสม ทั้งการนัดพบเจอกันในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม ในเวลาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงมีการถูกเนื้อต้องตัว จนเกิดพยานหลักฐานที่จะนำขึ้นแถลงให้ทราบในที่นี้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นอาจิณ

ชาวบ้าน ยื่นหนังสือร้อง เจ้าคณะอำเภอปาย สอบพระวัดดัง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เสพเมถุน-ลักทรัพย์บริจาค

ชาวบ้าน ยื่นหนังสือร้อง เจ้าคณะอำเภอปาย สอบพระวัดดัง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เสพเมถุน-ลักทรัพย์บริจาค

สำเนาภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าพระสงฆ์รูปนี้ได้ถ่ายรูปร่วมกับหญิงคนหนึ่งโดยไม่ได้สวมใส่เสื้อ ในลักษณะที่แสดงให้เห็นว่าได้มีการร่วมสังวาสกันมาแล้ว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมเสพเมถุนซึ่งเป็นอาบัติขั้นสูงสุดถึงขั้นปาราชิกที่ต้องขาดจากการครองสมณเพศอย่างชัดเจน พฤติกรรมที่มีความประพฤติผิดเป็นการละเมิดพระธรรมวินัยและเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา โดยการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่เข้าข่ายการลักทรัพย์

โดยได้มีลักษณะของการกระทำตามที่ปรากฏในภาพวีดีโอของกล้องวงจรปิดที่ได้ทำการบันทึกเอาไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการประพฤติปฏิบัติในลักษณะนี้จนเป็นอาจิณ โดยลักษณะของการกระทำในทุกครั้งจะใช้วิธีในลักษณะเดียวกัน ซึ่งก็คือการใช้ธูป ไม้ หรือวัตถุใด ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงที่มีลักษณะเรียวยาวคล้ายธูปในการสอดเข้าไปในตู้บริจาคเพื่อเขี่ยเงินในตู้รับบริจาคให้หลุดออกมาจากตู้ ซึ่งวัตถุต่าง ๆ ที่ใช้ในการเขี่ยเงินบริจาคให้ออกมาจากตู้นั้น จะถูกซุกซ่อนอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับตู้บริจาคนั้นเอง

จากพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมเพื่อกราบนมัสการนำเรียนให้กับท่านเจ้าคณะอำเภอปายมาในข้างต้นนี้ทางชาวบ้านบ้านแม่เย็นได้มีความเห็นร่วมกันว่าควรมีการดำเนินการร้องเรียนเพื่อแถลงให้ทางพระคุณเจ้าเจ้าคณะอำเภอปายได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมนำเสนอพยานหลักฐานประกอบ เพื่อให้เจ้าคณะอำเภอปาย ซึ่งเป็นเจ้าคณะสังฆาธิการในลำดับปกครองที่สูงกว่า ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจโดยใช้ดุลยพินิจ ในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนจากข้อเท็จจริงจากพยานหลักฐานที่ปรากฏในการลงนิคหกรรมแก่พระภิกษุที่ได้ล่วงละเมิดพระธรรมวินัยดังกล่าว

ล่าสุดทราบว่า พระสงฆ์รูปดังกล่าวเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ไปนอนพักที่วัดแห่งหนึ่งนอกพื้นที่แล้ว ซึ่งเป็นที่พำนักของรองเจ้าคณะตำบล โดยพระสงฆ์เจ้าคณะตำบล ไม่ได้ทำการควบคุมตัวหรือจับสึกและดำเนินการทางวินัยสงฆ์ต่อพระรูปนี้แต่อย่างใด และวันนี้ทราบว่า พระสงฆ์รูปนี้ยังได้เดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่ และไม่ยอมสึกหรือรับผิดใดใด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ