แฉชายคลั่งราดน้ำแดง-ปาขวดในห้าง เคยเทงูกลางถนนมาแล้ว ตร.ชี้ญาติมีความผิด จ่อเอาผิด 2 ข้อหา ประสานแพทย์ที่รักษาเข้าให้การช่วย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ก.พ.65 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกบช.น. เปิดเผยถึงกรณี เค ร้อยล้าน ชายคลั่งก่อเหตุปาขวดแก้วในห้างดังย่านปทุมวันว่า

จากการตรวจสอบเบื้องต้นชายคนดังกล่าวเป็นคนเดียวกันกับที่เคยก่อเหตุปล่อยงูที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 เม.ย.62 และทำร้ายตัวและปล่อยงูเมื่อ 1 ก.พ.65 ที่ถนนราชดำริ เป็นคนเดียวกันทั้งหมด โดยสน.ลุมพินี ได้ทำการเปรียบเทียบปรับกรณีดังกล่าว อยู่ระหว่างรอผลตรวจแอลกอฮอล์ สารเสพติด และรวมทั้งสภาพจิต ผลตรวจอยู่ระหว่างแพทย์รพ.ตำรวจตรวจสอบ หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด จะเเจ้งดำเนินคดีเพิ่มเติม

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในใบรับรองแพทย์ระบุว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นโรคจิตอารมณ์แปรปรวน โดยรเข้ารักษาที่รพ.สมเด็จเจ้าพระยา ตั้งแต่ปี 27 เม.ย. – 7 พ.ค. พ.ศ.2562 แต่ปัจจุบันผู้ป่วยรายนี้ปฏิเสธที่จะเข้าไปรับยา เพื่อใช้รักษาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมาก่อเหตุปล่อยงูเมื่อ 1 ก.พ.65 ที่ถนนราชดำริ และสนามบินสุวรรณภูมิ พื้นที่บช.ภ.1 รวมทั้งล่าสุดห้างดังย่านปทุมวัน ที่สน.ปทุมวัน ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของห้างดังกล่าว เข้าพบพนักงานสอบสวน เบื้องต้นตร.จะดำเนินคดี 1.ผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร และ 2.ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนรำคาญ โดยทางบช.น. เร่งรัดกำชับก่อเหตุหลายครั้ง จะเชิญให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา แต่ผู้ต้องหาดังกล่าวไม่ได้ก่อเหตุอันตรายให้ผู้อื่น ครอบครัวต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนของเหตุการณ์ดังกล่าว ทางพนักงานสอบสวนจะต้องประสานแพทย์ที่รักษาเข้าให้การช่วย

ส่วนกรณีที่ก่อเหตุซ้ำต้องให้ศาลพิจารณาสั่งการหรือไม่ พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นความผิดลหุโทษ อาทิ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด และ พ.ร.บ.จราจรฯ โทษเป็นการเปรียบปรับจบในชั้นพนักงานสอบสวน แต่กรณีดังกล่าวจะต้องประสานให้แพทย์ที่รักษาดูแลต่อ ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวต้องมีการประชาสัมพันธ์ ทั้งกรณีนี้หรือกรณีทั่วไปมีผู้ป่วย คนในครอบครัวต้องดูแลอย่างใกล้ชิด หากปล่อยปละละเลยก็จะเป็นความผิดตามกฎหมาย

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายในสังคมมองว่าผู้ก่อเหตุมีการกระทำผิดซ้ำบ่อยครั้ง จะเข้าข่ายบุคคลอันตรายหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีทั้งผู้ป่วยแสดงอาการและไม่แสดงอาการ บุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลที่น่าเห็นใจ ไม่ควรดูถูกหรือดูหมิ่น เนื่องจากถือว่าเป็นคนป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ยืนยันในการรักษาตัว ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้กับญาติพี่น้องและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดูแลคนก่อเหตุอย่างใกล้ชิด โดยมีกรมสุขภาพจิตพยายามดูแลกรณีดังกล่าว ในขณะเดียวกัน บุคคลใกล้ชิดหรือญาติที่เป็นผู้ดูแลผู้ป่วย ไม่ให้มีการกระทำความผิดซ้ำ