กลายเป็นประเด็นที่แฟนมวยให้ความสนใจทันทีเมื่อ “เดอะ แพ็คแมน” แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลิปปินส์ ตัดสินใจออกมาประกาศว่าเขาจะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในบ้านเกิด ในการเลือกตั้งปี 2022 ภายใต้ พรรค PDP-Laban (กลุ่มลาบัน) ที่เจ้าตัวสังกัดในปัจจุบัน

โดยเรื่องนี้ทำให้สื่อ และหลายฝ่ายมองว่า กำปั้นจอมเก๋าวัย 42 ปี อาจจะตัดสินใจแขวนนวมหันหลังให้กับสังเวียนกำปั้นเป็นการถาวรเลย หลังสภาพร่างกายของเจ้าตัวถือว่าไม่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นพลังกำปั้น และ ความเร็ว ยิ่งกับถ้อยคำที่เจ้าตัวออกมากล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ด้วยแล้ว

“ผมเป็นนักสู้ และผมจะเป็นนักสู้ทั้งในและนอกสังเวียน เราต้องการรัฐบาลในการให้บริการประชาชนของเราด้วยความซื่อสัตย์ ความเห็นอกเห็นใจ และความโปร่งใส ซึ่งแน่นอนผมจะทุ่มเททำงานอย่างหนักในครั้งนี้” อดีตแชมป์โลก 8 รุ่น กล่าว

อย่างไรก็ตาม ฌอน กิบบอนส์  โปรโมเตอร์ใหญ่แห่ง MP Promotions (สังกัดของ แมนนี่ ปาเกียว) ได้ออกมาแย้งถึงกระแสการแขวนนวมของ ยอดมวยในสังกัดว่า “มันเป็นเพียงแค่ข่าวลือ จนกว่าคุณจะได้เห็นมันผ่านทวิตเตอร์ หรือ อินสตาแกรม ว่าเขาประกาศแขวนนวมจริงๆ ตอนนี้มันเป็นเพียงแค่การคาดเดาเท่านั้น”

พร้อมกันนี้ โปรโมเตอร์ใหญ่คนดังยังยกตัวอย่างให้เห็นว่าที่ผ่านมา แมนนี่ ปาเกียว ก็เคยหายหน้าจากวงการไปนานกว่า 7 เดือน หลังเป็นฝ่ายเอาชนะ ทีโมธี แบรดลี่ย์ เมื่อปี 2016 เพื่อไปทุ่มเทให้กับงานการเมืองในการลงสมัครวุฒิสภา ก่อนที่อีก 7 เดือนต่อมาจะกลับมาขึ้นสังเวียนเอาชนะ เจสซี่ วาร์กัส กำปั้นชาวสหรัฐฯ มาแล้ว

สำหรับ แมนนี่ ปาเกียว เป็นเจ้าของแชมป์โลก 8 รุ่น คนแรกของโลก มีสถิติชนะ 62 แพ้ 8 เสมอ 2 ครั้ง และติดโผนักกีฬาที่ทำเงินได้มากที่สุดแห่งทศวรรษ 2010 (ในช่วงระหว่างปี 2010-2019) โกยไปได้มากถึง 435 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 13,106 ล้านบาท) ติดอันดับที่ 8 ในการจัดอันดับของ ฟอร์บส์ (Forbes) นิตยสารทางการเงินชื่อดังของสหรัฐอเมริกา

ซึ่งนอกจากบทบาทในฐานะนักกีฬาอาชีพแล้ว เจ้าตัวยังมีตําแหน่งหน้าที่เป็นถึงสมาชิกวุฒิสภาในบ้านเกิด และถือเป็นขวัญใจคนยากในประเทศฟิลิปปินส์ โดยพยายามแก้ปัญหาในเรื่องของคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะในคิบาเว่ บ้านเกิดของเจ้าตัวที่ถือว่าเป็นแหล่งชุมชนที่ประสบปัญหาความยากจนอย่างหนัก