การแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ปี 2022 นั้นจะจัดการแข่งขันกันที่เมืองหางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเมืองหางโจวนั้นตั้งอยู่ในเขตภาคตะวันออกและจัดว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ 1 ใน 6 ของประเทศจีน เมืองหางโจวมีศักดิ์เป็นเมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง เป็นเมืองมีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมโบราณเป็นอย่างมาก ในทางกลับกันแม้หางโจวจะได้ชื่อว่าเป็นเมืองเก่าที่มีวัฒนธรรมโบราณมากมายแต่ในเรื่องความเจริญก้าวหน้านั้นเมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญทางด้านเทคโนโลยีดิจิทอลเป็นอย่างมาก
ด้วยความมีเอกลัษณ์ดังกล่าวจึงไม่น่าแปลกใจที่คณะกรรมการจัดการกีฬาเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้จะนำเอาความเป็นหางโจวมาใช้ในการออกแบบคบเพลิง “เปลวไฟนิรันดร์” และเหรียญรางวัล “ชาน ฉ่วย” โดยมีธีมหลักคือนำพาอารยธรรมเหลียงจู่โบราณข้ามผ่านกาลเวลามาสู่ปัจจุบันและต่อเนื่องไปยังอนาคต
บทความนี้ ผมจะขออาสาพาทุกท่านไปรู้จักกับเมืองหางโจวในแง่มุมต่างๆ ให้มากขึ้นกันครับ เพื่อเป็นการเตรียมตัวต้อนรับการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้
ทะเลสาบซีหู
ทะเลสาบซีหู ดินแดนดั่งสรวงสวรรค์
เมืองหางโจวตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของประเทศจีน ตัวเมืองหางโจวนั้นจะมีภูเขาล้อมรอบและมีทะเลสาบซีหูอยู่ใจกลางเมือง โดยทะเลสาบซีหูนี้จัดว่าเป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามทางธรรมชาติเป็นอย่างมากทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของบทกวีหรือวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงมากมายซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องนางพญางูขาว ความสวยงามของทะเลสาบซีหูเป็นที่เลื่องลือจนสามารถดึงดูดผู้คนที่ไปเยี่ยมเยือนเมืองหางโจวให้ต้องแวะเวียนไปสถานที่ดังกล่าวจนกลายเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมือง
ทะเลสาบซีหูนั้นมีทิวทัศน์ที่งดงามล้อมรอบด้วยภูเขาสามด้าน น้ำในทะเลสาบมีความใสสะอาดราวกับกระจก เขื่อนดินก็เต็มไปด้วยดอกไม้ที่แสนงดงามพื้นที่บนบกก็ปกคลุมด้วยต้นไม้สีเขียวขจีงดงามสดชื่นตลอดทั้งปี ความสวยงามของทะเลสาบแห่งนี้สามารถตรึงใจผู้มาเยือนได้อย่างมากมายและหนึ่งในนั้นก็คือ “มาร์โค โปโล” นักเดินทางที่มีชื่อเสียงชาวอิตาลีถึงขนาดกล่าวเอาไว้ประมาณว่า “การที่ได้มาอยู่ที่ซีหู ก็เสมือนนั่งอยู่บนสวรรค์”
กุ้งหลงจิง เมนูขึ้นชื่อของหางโจว
เมืองแห่งชาและอาหารพื้นเมืองเลิศรส
เมืองหางโจวเป็นเมื่อที่เป็นแหล่งผลิตชาหลงจิ่งชั้นเลิศ วัฒนธรรมการชงชาหลงจิ่งของเมืองหางโจวนั้นจะใช้น้ำที่ไม่ร้อนจนเกินไป อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมคือไม่เกิน 90 องศาเพื่อให้ได้น้ำชาสีเหลืองเขียวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ สัมผัสได้ถึงธรรมชาติ โดยสถานที่อันเป็นที่นิยมในการไปสัมผัสถึงวัฒนธรรมการชงชาก็คือสวนอิมพีเรียลหรือพิพิธภัณฑ์ชาแห่งชาติ ซึ่งหากไปเยี่ยมเยือนในช่วงเก็บเกี่ยวใบชาก็จะสามารถสัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆ ผ่านสายลมเป็นบรรยากาศที่สุดแสนน่าประทับใจ
ด้านอาหารประจำถิ่นของเมืองหางโจวนั้นก็มีความหลากหลายโดยเมนูที่ได้รับความนิยมเมนูหนึ่งก็คือ “กุ้งหลงจิง” ที่นำเอากุ้งแม่น้ำมาปอกเปลือกและทำการปรุงรสตามแบบฉบับพื้นเมืองของชาวหางโจวจากนั้นก็ทำการหมักให้เครื่องปรุงรสได้ซึมเข้าไปยังเนื้อกุ้ง จากนั้นนำมัดร่วมกับใบชาที่ลวกไว้ เมนูนี้กลายเป็นเมนูที่ผู้ไปเยือนเมืองหางโจวไม่ควรพลาด
อีกจุดเด่นของเมืองหางโจวเลยก็คืออาหารแนวสตรีทฟู้ดที่มีความหมากหลายอย่างมาก โดยสตรีทฟูดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองจะอยู่บริเวณถนนจงซานหรือที่เรียกกันว่า “จงซาน หนานลู่” ถ้าใครไปชมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้ก็อย่าลืมแวะไปนะครับ
รถบัสไร้คนขับ
เมืองแห่งเทคโนโลยี
หางโจวนั้นเป็นอีกเมืองที่เป็นยุทธศาสตร์ทางด้านเทคโนโลยีและโลกดิจิทัลที่สำคัญที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศจีน เมืองหางโจวเองเป็นที่ตั้งของบริษัทอาลีบาบาอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลกที่เริ่มผันตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและระบบคลาวด์ ส่งผลให้เมืองแห่งนี้เปรียบเสมือนกับเป็น Silicon Valley ของประเทศประชาชนในเมืองมีความสามารถในการปรับตัวเข้าสู่ชีวิตยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่การแข่งขันเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้จะถูกจัดการแข่งขันและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมากกว่าในอดีต
ตัวอย่างก็เช่นคณะกรรมการจัดการแข่งขันมีการนำรถบัสแบบไร้คนขับมาให้บริการรับส่งผู้มาเยือนในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ โดยเทคโนโลยีด้านรถยนต์ไร้คนขับนั้นกำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปเป็นร่างในประเทศจีน รถบัสดังกล่าวจะให้บริการเป็นระยะทางทั้งสิ้น 5.7 กิโลเมตร และมีจุดขึ้นลงทั้งหมด 8 จุดทั่วเมือง เรียกได้ว่านอกจากเมืองหางโจวจะใช้โอกาสในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงศักยภาพในการจัดงานขนาดใหญ่ได้แล้ว เมืองยังต้องการนำเสนอความเป็นผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีผ่านการแข่งขันในครั้งนี้อีกด้วย
สนามดอกบัวยักษ์
สถาปัตยกรรมล้ำสมัย
เมืองหางโจวมีการกำหนดพื้นที่เมืองใหม่หรือเฉียนเจียง นิว ซิตี้ (Qianjiang New City) โดยอยู่ทางใต้จากใจกลางเมืองโดยเมืองใหม่นี้ถูกกำหนดให้เป็นย่านธุรกิจที่มีสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย อาคารทรงแปลกประหลาดมากมายหลายอาคารถือกำเนิดขึ้นจนกลายเป็นที่สะดุดตาอย่างเช่น อาคารอินเตอร์คอนติเนนตัล หางโจว (InterContinental Hangzhou) โรงแรมหรูที่ตัวอาคารเป็นทรงลูกบอลสีทองโดดเด่นเป็นแลนด์มาร์คสำคัญ
เมื่อมองจากเฉียนเจียง นิว ซิตี้ข้ามแม่น้ำไปก็จะเห็นสนาม “หางโจว โอลิมปิก สปอร์ต เซ็นเตอร์” หรือก็คือ “สนามดอกบัวยักษ์” ที่มีความสวยงามอลังการและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สื่อถึงความเป็นจีนและเอเชียอย่างชัดเจน โดยสนามกีฬาแห่งนี้ก็จัดเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนและสัมผัสดวงตาของตัวเอง
นี่คือเรื่องราวของเมืองหางโจว เจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ปี 2022 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ และผมเชื่อว่าเมื่อทุกท่านอ่านบทความมาถึงตรงนี้หลายคนต้องอยากที่จะไปเยี่ยมเยือนเมืองหางโจวสักครั้ง เมืองที่หลอมรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันจนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตนเอง