จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 เรือบรรทุกน้ำมันของกลางขนาดใหญ่ 3 ลำ บรรจุน้ำมันรวมกว่า 3 แสนลิตร ได้หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ต่อมา วันที่ 13 มิถุนายน 2567 พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหาร (ผบ.ทร.) ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่สัตหีบ ทำทุกทางให้ช่วยหาให้ได้ ทั้งส่งเรือออกลาดตระเวน และส่งสายข่าวหาข้อมูล ช่วยตำรวจน้ำ และมีการสั่งเด้ง ผกก.ตำรวจน้ำ พร้อมลูกน้องนั้น
- บิ๊กก้อง สั่งเด้ง ผกก.ตำรวจน้ำ พร้อมลูกน้อง เซ่นปม เรือขนน้ำมันเถื่อนหาย
- ผบ.ทร. ออกคำสั่ง หน่วยในพื้นที่สัตหีบ เร่งช่วย ตร. หาของกลาง
ล่าสุด นายชัยชนะ เดชเดโช สส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรือโดนเคลื่อนย้ายไปตั้งแต่วันอังคารที่ 11 มิ.ย. เวลา 20.00 น. และแล่นไปทางเกาะกูด (รอยต่อน่านน้ำประเทศกัมพูชา) และไปโผล่ที่นั่น วันพุธที่ 12 มิ.ย. เวลา 08.00 น. โดยมีคน 10 คน นำเรือ 3 ลำออกไป ขณะนี้ทราบแล้วว่ามีใครบ้าง อยู่ในขั้นตอนดำเนินการออกหมายจับ
ส่วนการดำเนินการกับตำรวจน้ำที่รับผิดชอบ ทราบว่ากองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. ในสังกัด บช.ก. ได้แจ้งข้อหากับตำรวจน้ำ 4 นายที่เกี่ยวข้องแล้ว
“เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้าของเรือที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ด้วย นั่นก็คือเสี่ย จ.” นายชัยชนะ หรือ สส.แทน ระบุ
และว่า “ขณะนี้ทราบแล้วว่าบุคคลที่ขับเรือไป 10 กว่าคนมีใครบ้าง กำลังขอหมายจับ ส่วนเจ้าหน้าที่จะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง กำลังสืบสวนหาข้อเท็จจริงอยู่ แต่เบื้องต้นก็แจ้งข้อหา 157 ประมาทเลินเล่อ เพราะทำไมเรือจอดอยู่ ถึงปล่อยให้ขโมยไปได้”
อนึ่ง ทิศทางที่เรือบรรทุกน้ำมันเถื่อนแล่นหนีไปจากสัตหีบ ที่มีข้อมูลว่าไปโผล่ที่เกาะกูดนั้น เป็นน่านน้ำชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวว่า ”เสี่ยโจ้ ปัตตานี“ ที่หนีหายไปจากการควบคุมของตำรวจ และศาล ก็หลบไปกบดานในประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่าเป็นกัมพูชาเช่นกัน