กลายเป็นประเด็นดราม่าร้อน ๆ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว3 ได้ออกมาโพสต์ถึงประเด็นที่มี บล็อกเกอร์หนุ่มชาวไทยรายหนึ่ง ซึ่งมีผู้ติดตามในยูทูบมากกว่า 1.18 ล้าน และผู้ติดตามในเพจเฟซบุ๊กกว่า 5.5 หมื่นคน โดยเจ้าตัวได้มาโพสต์คลิป พาเที่ยวญี่ปุ่น และรีวิวโรงแรม แต่ที่กลายเป็นดราม่าเพราะว่าบล็อกเกอร์หนุ่มรายนี้ได้เข้าไปรีวิวถึงในห้องอาบน้ำ!
โดยทางเพจได้ระบุว่า “คอนเทนต์ถอดสมอง…คนถ่ายคลิปยังแถไปเรื่อยลำพังแค่เดินถือกล้องถ่ายก็ผิดแล้ว ที่สำคัญคนญี่ปุ่นเค้าซีเรียสเรื่องความเป็นส่วนตัวมาก อีกอย่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นการอาบน้ำแร่ร้อน หรือแช่ออนเซ็น ก็ไม่มีใส่เสื้อผ้าอยู่แล้ว มันแปลกตรงไหน? ถ้าแปลกคือแปลกตรงที่ไอ้ยูทูปเบอร์คนนี้ถือกล้องถ่ายในห้องน้ำ”
“อาบน้ำแก้ผ้า นอนแช่ออนเซ้น ดราม่าที่กำลังละเมิdสิทธิส่วนตัว หลังยูทูปเบอร์คนนึงเดินถือกล้องเข้าถ่ายไปตามมุมต่างๆ ภายในพื้นที่ของห้องอาบน้ำรวมที่ญี่ปุ่น
หลายคนเห็นคลิปต่างเข้าไปตักเตือนว่าการนำกล้องเข้าไปถ่ายแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหากคลิปนี้บังเอิญมีสื่อญี่ปุ่นหยิบไปนำเสนอข่าวอาจจะสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเค้าเองรวมถึงภาพลักษณ์ของคนไทยที่ไปเที่ยวในญี่ปุ่นได้
จากนั้นเจ้าตัวเข้ามาตอบคอมเมนต์ของคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นโดยที่ไม่ได้รู้สึกผิดหรือสำนึกว่าคอนเทนต์ที่นำมาลงคือเรื่องที่ไม่สมควร…”
งานนี้หลังจากที่โพสต์ถูกแชร์ออกไปก็มีลูกเพจเข้ามาแสดงความเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ สิ่งที่น่าตกใจกว่าอาบน้ำแก้ผ้าคือ ถือกล้องเข้าห้องอาบน้ำนี่แหละ, มีความเป็นส่วนตัว เราจะไปถ่ายเขาก้อได้หรอคะ แบบนี้ไม่ได้นะคะ ส่วนตัวนิสนึงค่ะ, เสียมารยาทแบบนี้เอาให้หนัก สงสัยคนที่บ้านมันเวลาอาบน้ำคงใส่กางเกงยีนส์อาบน้ำ!!, มันเป็นเรื่องปกติปะ เขาไม่มองกันด้วยเขาให้เกียติกันค่ะ เขาไม่เสียมารยาทมองหรือเอามือถือไปถ่ายจ้า ผิดกฏนะคะ เราเคยไปกับเพื่อนก็เห็นปกตินะทุกคนก็ต้องเปลือยกันหมดจ้า เป็นต้น
ต่อมาเจ้าตัวได้ออกมาโพสต์ชี้แจงกรณีดราม่า ระบุว่า “ผมขอชี้แจงครั้งนี้ครั้งเดียวละกันนะครับ ผมเป็นบล็อกเกอร์ผมก็ถ่ายคลิปปกติของผมนะครับ และคลิปดังกล่าวที่ผมถ่ายและเป็นดราม่านั้น ผมก็ยืนยันว่าผมไม่ได้เข้าไปถ่ายในห้องน้ำ ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่าห้องน้ำของโรงแรมที่นี้เป็นออนเซ็น และไม่ได้มีเจตนาที่จะไปถ่ายใครข้างในนั้น และในคลิปดังกล่าวผมก็ไม่ได้ถ่ายติดใครด้วย เพราะผมยังอยู่ในพื้นที่ที่เป็นห้องเก็บกระเป๋า แต่มี ผช. ที่เดินออกมาจากห้องน้ำไม่ใส่เสื้อผ้าเข้ามา ผมก็ตกใจนิดนึง เพราะสำหรับผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องผิดปกติเลย แต่ก็เข้าใจว่าเป็นวัฒนธรรมของเค้า
และแน่นอนว่าถ้าผมรู้ว่าห้องน้ำของโรงแรมที่นี่เป็นออนเชีน ผมก็คงจะไม่ถ่ายอย่างแน่นอน แต่คลิปที่ผมถ่ายมานั้น ก็ไม่ได้มีการถ่ายติดในโซนบริเวณห้องน้ำแต่อย่างใด เพราะผมยังไม่ได้เดินเข้าไปในพื้นที่ตรงนั้น และคนที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คือผมครับ เพราะฉะนั้นอย่า อย่าพูดมั่วไปเรื่อยว่าเหตุการณ์เหตุการณ์เป็นอย่างนี้เป็นอย่างนั้น โดยที่คุณไม่ได้อยู่จุดจุดนั้นเหมือนกับผม หากเป็นการกระทำใดที่ผิด พลาดผมก็ต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วยนะครับ”