‘เวน่อม-คาร์เนจ’ปะทะเดือด – ได้เวลาไปมันส์กับเจ้าวายร้ายที่หลายคนหลงรัก ใน Venom : Let There Be Carnage (เวน่อม ศึกอสูรแดงเดือด) ซึ่งครั้งนี้จะเป็นมหาศึกแห่งสายพันธุ์ระหว่างสองอสูรผู้ล่า
โดยนักแสดงหนุ่มมาดเท่ ทอม ฮาร์ดี หวนคืนบทบาท เอ็ดดี้ บร็อก/เวน่อม หนึ่งในตัวละครที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่ที่สุดของมาร์เวลอีกครั้ง
ร่วมด้วย วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน ในบทตัวร้าย คลีตัส คาซาดี้/คาร์เนจ, นาโอมิ แฮร์ริส กับบท ชรี้ก และ มิเชลล์ วิลเลียมส์ ในบท แอนน์ พร้อมนักแสดงอีกคับคั่ง อาทิ รี้ด สก๊อต, สตีเฟน เกรแฮม กำกับฯโดย แอนดี้ เซอร์คิส
ในครั้งนี้ เอ็ดดี้ บร็อก พยายามจุดประกายไฟให้กับอาชีพสื่อมวลชนของเขา ด้วยการดั้นด้นเข้าไปสัมภาษณ์ฆาตกรต่อเนื่อง ชื่อดัง คลีตัส คาซาดี้ และเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อคลีตัสก่อเหตุแหกคุก และเอ็ดดี้กับเจ้าเวน่อมที่สิงอยู่ในร่างของเขาก็ต้องเผชิญความสยองกับปรสิตอีกตน ที่เข้าสิงร่างฆาตกรโรคจิตคลีตัส จนกลายเป็น คาร์เนจ วายรายตัวใหม่
ทอม ฮาร์ดี เล่าว่า “ผมมีความรู้สึกดีที่ได้แสดงบทบาทสองด้านของจิตใจ เพราะเวน่อมและเอ็ดดี้เป็นคนคนเดียวกันสำหรับผม พวกเขาแตกต่างกันตรงที่ว่าคนหนึ่งเป็นอสุรกาย เขาคือหนึ่งเดียวพวกเขาอยู่ในร่างเดียวกันเสมอ ใน Venom ครั้งนี้ เอ็ดดี้บอกเวน่อมว่าเขางับหัวพวกคนเลวได้ และปรสิตต่างดาวก็ชอบใจสุดๆ พวกเขาเรียกตัวเองว่า ผู้ปกป้องแสนร้ายกาจ และเขมือบพวกผู้ร้ายในนามของความยุติธรรม”
“สำหรับ แอนดี้ เซอร์คิส เขาใช้เวลาหลายปีอยู่หน้ากล้องและหลังกล้อง เขาผ่านงาน เพอร์ฟอร์แมนซ์ แคปเจอร์ และแอนิเมชั่น มาก่อน และเขาก็เข้าใจเรื่องราว อากัปกิริยาและเรื่องของการใช้เสียงเป็นอย่างดี เขาเป็นนักแสดงที่ยอดเยี่ยม เป็นผู้กำกับฯ ที่ยอดเยี่ยม เขาเพอร์เฟ็กต์สำหรับการกำกับหนังเรื่องนี้ และเขาก็ทำได้อย่างน่าทึ่งมาก”
ด้านผู้กำกับฯ แอนดี้ เซอร์คิส บอกให้ฟังว่า “ทอม ฮาร์ดี คือผู้ที่ถ่ายทอดบทบาทนี้ ได้อย่างพิเศษสุด ตอนที่จู่ๆ ทอมโทร.หาผม บอกผมว่า คงเป็นเรื่องเยี่ยมถ้าผมจะมากำกับหนังเรื่องนี้ และขอให้ผมมาร่วมงานด้วย ผมคิดว่าเป็นเพราะเขาต้องการผู้กำกับฯ ที่เข้าใจ เข้าถึง คงความเป็นตัวตนของเวน่อมได้มากที่สุด”
“งานครั้งนี้เป็นของถนัดของผม การสร้างตัวละครด้วยซีจี ความร่วมมือที่จะนำตัวละครไปสู่โลกของวิช่วล เอฟเฟ็กต์ เราต่างคุ้นเคยกันในฐานะนักแสดงมานานหลายปีแล้ว มันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ที่จะได้มีโอกาสร่วมงานกับทอมสักครั้ง”
“และเวน่อมในครั้งนี้มีความยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก คือเรามี วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน ที่มารับบท คาร์เนจ/คาซาดี้ เขาเป็นส่วนสำคัญและเป็นตัวร้ายที่แฟนๆ รักมากที่สุดในจักรวาลเวน่อม เช่นกัน เขากลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่บ้าคลั่ง อันตรายและโรคจิต ในตอนแรก เขาดูไม่มีพิษมีภัย หรือกระทั่งอ่อนโยนด้วยซ้ำไป แต่เขาก็เป็นฆาตกร ที่เน่าไปถึงเนื้อใน”
“วู้ดดี้ ทำทุกอย่างได้ยอดเยี่ยม การแสดงที่ลึก เป็นคนบิดเบี้ยว เจ้าเล่ห์ จอมบงการ อันตราย ผู้ชมอดไม่ได้ที่จะรักเขา การนำเสนอบทนี้ให้ออกมาอยู่ตรงกลาง นาทีหนึ่งเขาเป็นเด็ก และในนาทีถัดไป เขาก็กลายเป็นฆาตกรที่มีจิตใจอำมหิต ที่มีความเปราะบางจริงๆ ซ่อนอยู่ข้างใน นี่คือส่วนผสมที่ลงตัวที่มาเจอกันระหว่าง ทอม ฮาร์ดี กับ วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน”
“เขาเป็นฆาตกรโรคจิต” ฮาร์เรลสันกล่าวถึงตัวละครที่เขาเล่น “เขาได้รับการเลี้ยงดูแบบเลวร้าย และตอนนี้ เขาก็รู้สึกว่าเขาจำเป็นจะต้องแก้แค้นคนที่เขารู้สึกว่ารับผิดชอบต่อสภาพที่เขาเป็นอยู่ ก่อนที่เขาจะพบเอ็ดดี้ คลีตัสก็รู้สึกว่าเอ็ดดี้จะเป็นเพื่อน เป็นผู้ช่วยชีวิต เป็นคนที่เชื่อในตัวเขา”
“แน่นอนว่าความรู้สึกนั้นเป็นเพียงแค่ความคิดของฆาตกรวิกลจริตผู้นี้ และเมื่อเขารู้ว่าเอ็ดดี้อาจจะไม่ใช่เพื่อนที่เขามองหา เอ็ดดี้และเวน่อม ก็จะต้องประจันหน้ากับ คลีตัสและคาร์เนจ”
ฮาร์ดีพูดถึงฮาร์เรลสันว่า “วู้ดดี้เป็นหนึ่งในคนที่เจ๋งที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมา ในฐานะมนุษย์และนักแสดง เขาเป็นคนที่น่ายำเกรงครับ ไม่มีอะไรที่คุณนำเสนอที่จะทำให้เขาแปลกใจได้ เขามีคำตอบ มีทางแก้ปัญหาสำหรับทุกอย่างและเขาก็มีเรื่องราวจะบอกเล่าด้วย ในฐานะศิลปิน เขาวิเศษสุด เขามีความคิดสร้างสรรค์ที่ยอดเยี่ยม และเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ ทำให้การได้ร่วมงานกับเขาเป็นความสุขจริงๆ”
ด้านสาว นาโอมิ แฮร์ริส พูดถึงบทบาทของเธอว่า “กุญแจสำคัญในการไขปมชรี้คคือเสียงของเธอค่ะ มันเป็นอาวุธของเธอและเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเธอด้วย แอนดี้ชี้ให้เห็นว่าตอนที่เธอได้พบคลีตัสอีกเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ มันก็เป็นครั้งแรกที่เธอได้ใช้เสียงของเธอ มันก็เลยแหบพร่าค่ะ”
“ฉันทดลองวิธีต่างๆ เพื่อหาเสียงนั้น และก็เหมือนกับตัวละครตัวอื่นๆ ในที่สุด คุณก็จะพบคำตอบ ตอนที่ฉันพบเสียงของเธอ เสียงที่แหบของเธอ เสียงที่บอบช้ำของเธอ ฉันก็รู้สึกได้ว่าเธอเป็นใคร ฉันใช้เสียงของเธอเป็นผ้าคลุม นั่นเป็นวิธีที่ทำให้ฉันเข้าถึงตัวเธอ”
สำหรับฮาร์ดีนั้น เขาทุ่มเทให้กับภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เขาสร้าง แต่กับภาพยนตร์เรื่องนี้ ความทุ่มเทของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับเครดิตการเขียนบท โดยเขาร่วมเขียนเรื่องราวนี้กับ เคลลี มาร์เซล ซึ่งเธอบอกว่า
“ทอมเป็นคนสร้างสรรค์ที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมในการคิดรังสรรค์ไอเดียต่างๆ ดังนั้นการได้ร่วมงานกับเขาสำหรับเรื่องราวของ Venom: Let There Be Carnage เป็นช่วงเวลาที่สนุกสนานและน่าตื่นเต้นจริงๆ ที่อะไรๆ ก็ให้ความรู้สึกว่าเป็นไปได้สำหรับตัวละครเหล่านี้ที่พวกเราชื่นชอบมัน”
“ทอมทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเนรมิตชีวิตให้กับเรื่องราวนี้ทั้งระหว่างการพัฒนาและในกองถ่าย เราทุกคนต่างก็รู้กันดีว่าเขามีพรสวรรค์มากแค่ไหนหน้ากล้อง แต่ฉันตื่นเต้นมากๆ ที่คนจะได้เห็นว่าเขายอดเยี่ยมแค่ไหนในงานเบื้องหลัง”
Venom : Let There Be Carnage เข้าฉายให้ชมอยู่ตอนนี้ทุกโรงภาพยนตร์