แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำได้ตามเป้าหมายเมื่อบุกไปเสมอบาเยิร์น มิวนิก ทำให้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ขณะที่อินเตอร์ มิลาน ก็ลิ่วเช่นกัน
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง เมื่อวันที่ 19 เมษายน “เสือใต้”บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีนา รับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ
เกมแรกแมนฯ ซิตี้เปิดบ้านชนะมาก่อน 3-0 ขณะที่เกมนี้เจ้าบ้านส่ง เอริก มักซิม ชูโป-โมติง, เลอรอย ซาเน, คิงสเลย์ โกมัน ลงสนาม ด้านทีมเยือนนำโดย เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน
ครึ่งแรกนาที 17 บาเยิร์นมีโอกาสจะแจ้ง จามาล มูเซียลา แทงบอลทะลุแนวรับให้ เลอรอย ซาเน กระชากหลุดเข้าไปถึงเขตโทษแล้วยิงผ่านนายทวารเฉียดเสานิดเดียว
นาที 18 แฟนบอลเจ้าบ้านต้องใจหายวาบ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ทำท่าจะหลุดเดี่ยวแล้วถูก ดาโยต์ อูปาเมกาโน เข้ากระแทกทำฟาวล์ล้มลง ผู้ตัดสินจึงแจกใบแดงให้อูปาเมกาโน
อย่างไรก็ตาม การเช็กวีเออาร์ทำให้ผลตัดสินเปลี่ยนเป็นฮาลันด์ล้ำหน้าก่อน และใบแดงของอูปาเมกาโนได้รับการยกเลิก บาเยิร์นยังมีครบ 11 คนเท่าเดิม
นาที 21 บาเยิร์นได้ฟรีคิกเยื้องไปทางริมเส้นฝั่งขวา เลอรอย ซาเน ปั่นบอลโค้งผ่านกำแพงทำท่าจะเสียบเสา เอแดร์ซอน โมไรส์ ยังไวพุ่งปัดทิ้งทัน
นาที 35 โอกาสเป็นของแมนฯ ซิตี้บ้าง อิลคาย กุนโดกัน ยิงจากหน้าเขตโทษแล้วแฉลบ ดาโยต์ อูปาเมกาโน บอลยังคงพุ่งตรงกรอบ ยานน์ ซอมเมอร์ พุ่งปัดทิ้งไปได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินเห็นว่าบอลไปโดนแขนของอูปาเมกาโน และแข้งรายนี้ยกแขนออกมาผิดธรรมชาติด้วย จึงเป่าให้จุดโทษแมนฯ ซิตี้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ รับหน้าที่สังหาร แต่ดันยิงโด่งข้ามคานออกไป สกอร์ยังคง 0-0
นาที 42 เลอรอย ซาเน ครองบอลในเขตโทษแล้วตอกส้นให้ คิงสเลย์ โกมัน สับไกยิงตรงกรอบ เอแดร์ซอน โมไรส์ ต้องทุบออกไป บาเยิร์นยังไม่ได้ประตู และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
ครึ่งหลังนาที 57 แมนฯ ซิตี้สกัดจังหวะบุกของบาเยิร์นได้แล้วสวนกลับเร็ว เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลให้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ เลี้ยงผ่านกองหลังหลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงเสียบตาข่าย ทีมเยือนนำ 1-0
นาที 75 คิงสเลย์ โกมัน หลุดเข้าทางด้านขวาของเขตโทษแล้วล็อกผ่านกองหลังก่อนสับไกยิง ผู้รักษาประตูปัดไปเข้าทาง มาธิส แตล ยิงซ้ำเข้าไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะที่โกมันเล่นแล้ว บาเยิร์นยังตีไข่แตกไม่สำเร็จ
นาที 82 ผู้ตัดสินดูวีเออาร์จังหวะที่ ซาดิโอ มาเน ปั๊มแย่งบอลในเขตโทษกับ มานูเอล อาคันจี ก่อนจะตัดสินว่าอาคันจีทำแฮนด์บอลและเป่าให้จุดโทษบาเยิร์น โยซัว คิมมิช สังหารเข้าไปให้เจ้าบ้านตีเสมอ 1-1
นาที 86 สถานการณ์ของบาเยิร์นแย่ไปกว่าเดิมอีก เมื่อผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่เทรนเนอร์ โธมัส ทูเคิล ให้ออกจากม้านั่งข้างสนามไปดูเกมบนอัฒจันทร์ ก่อนที่เกมจะจบด้วยผล 1-1 ไปในที่สุด
ทำให้แมนฯ ซิตี้เป็นฝ่ายชนะสกอร์รวม 4-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบเรอัล มาดริด แชมป์เก่าจากสเปน
ส่วนอีกคู่ “งูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน จากอิตาลี เปิดสนามสตาดิโอ จูเซ็ปเป เมอัซซา รับการมาเยือนของ “เหยี่ยวลิสบอน”เบนฟิกา จากโปรตุเกส แมตช์แรกเบนฟิกาแพ้คาบ้าน 0-2
สำหรับหนนี้จบด้วยสกอร์ 3-3 เจ้าบ้านได้ประตูจาก นิโคโล บาเรลลา นาที 14, เลาตาโร มาร์ติเนซ นาที 65, ฆัวกิน กอร์เรีย นาที 78 ส่วนทีมเยือนได้จาก เฟรดริก เอาร์สเนส นาที 38, อันโตนิโอ ซิลวา นาที 86, เปตาร์ มูซา นาที 90+5
ทำให้อินเตอร์ชนะผลรวม 5-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบเอซี มิลาน ทีมอิตาลีอีกราย และเท่ากับว่ารอบชิงชนะเลิศฤดูกาลนี้จะมีทีมจากอิตาลีอย่างแน่นอนแล้ว