'เรืองไกร' ยื่นหลักฐานเพิ่ม บี้สอบ 'พิธา' เตรียมชง ส.ส. ร้องตรง ศาลรธน. ตรวจคู่ขนาน

Home » 'เรืองไกร' ยื่นหลักฐานเพิ่ม บี้สอบ 'พิธา' เตรียมชง ส.ส. ร้องตรง ศาลรธน. ตรวจคู่ขนาน


'เรืองไกร' ยื่นหลักฐานเพิ่ม บี้สอบ 'พิธา' เตรียมชง ส.ส. ร้องตรง ศาลรธน. ตรวจคู่ขนาน

“เรืองไกร” ยื่นหลักฐานเพิ่มเติม บี้กกต.สอบ “พิธา” ถือหุ้นไอทีวี ชี้ หาก กกต.ไฟเขียวรับรองผล เตรียมเสนอ ส.ส. ใช้สิทธิ์เข้าชื่อร้องตรงต่อ ศาลรธน. ตรวจสอบคู่ขนาน กกต.

24 พ.ค. 66 – ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่น กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติ ส.ส.ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ถือหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด(มหาชน) ว่า

วันนี้ได้เข้ายื่นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อของนายพิธา เพื่อให้ กกต.นำไปประกอบการพิจารณา ประกอบด้วย ตารางชื่อของ นายพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ และ นายพิธา ถือหุ้นบริษัทไอทีวี ปี 2549-2566

รวมทั้ง สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้น บมจ.ไอทีวี ปี 2549-2566 (บางส่วน) สำเนาวัตถุประสงค์ของบมจ.ไอทีวี ตารางรายได้รวมของบมจ.ไอทีวี ปี 2564-2565 สำเนารายได้รวมของ ปี 2564-2565 (ขาดปี 2555) และสำเนาพระราชบัญญัติบริษัทจำกัดมหาชน บางส่วน

เนื่องจากตนเองเป็นแค่ผู้ร้อง ไม่มีอำนาจไปตรวจสอบกิจการได้ อีกทั้งมองว่า เรื่องนี้ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ดังนั้นเมื่อเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จะขอให้ศาลใช้ระบบไต่สวน เพื่อเรียกพยานหลักฐานเหล่านี้มาประกอบการพิจารณาวินิจฉัยด้วย

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า หาก กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. แต่ยังดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิธา ไม่แล้วเสร็จ อยากขอให้นักการเมืองที่มีสถานภาพเป็น ส.ส. ร่วมกันเข้าชื่อตามกฎหมาย เสนอเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นร้องตรงไปยังศาลรัฐธรรมนูญ

เหมือนกับที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถูกยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตรวจสอบกรณีถือหุ้นหจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ช่วงก่อนยุบสภา ส่งผลให้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะตรวจสอบคู่ขนานกับทางกกต.ได้

ดังนั้น จะเอาไปนำเสนอต่อ ส.ส. เพื่อพิจารณา ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ทำได้ และถ้า นายพิธา เป็นนายกฯ แล้ว ก็จะขอให้ ส.ว. จำนวน 250 ใช้สิทธิยื่นร้องสอบคุณสมบัตินายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญได้เช่นเดียวกัน ยืนยันว่า ข้อเสนอเป็นไปตามหลักข้อเท็จจริง ไม่มีอภินิหารหรือนิติสงครามทั้งสิ้น

นอกจากนี้ นายเรืองไกร ยังได้เข้าให้ถ้อยคำต่อ กกต.ที่เคยยื่นคำร้องให้ตรวจสอบ นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กรณีขึ้นรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวเป็นรูปโลโก้พร้อมเบอร์พรรคเพื่อไทย

เข้าข่ายจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนน หรือเข้าข่ายหลอกหลวงให้หลงผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคหรือไม่ เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 73(5) ประกอบมาตรา 56 มาตรา 132 และมาตรา 137 หรือไม่

ซึ่งทำให้คนเข้าใจว่า เป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค หรือเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

โดยวันนี้จะยื่นหลักฐานเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบุคคลทั้ง 2 ได้ทำการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์แล้ว หลังจากที่ตนยื่นให้ กกต.ตรวจสอบ ซึ่งการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์แสดงว่า ข้อกล่าวหาก็จะต้องมีการตรวจสอบต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ