อีกหนึ่งโครงการรัฐบาลที่สร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว อย่างเช่น เราเที่ยวด้วยกัน ได้เดินทางมาถึงเฟส 4 เป็นที่เรียบร้อย โดยจะสามารถใช้สิทธิกันได้ถึงเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งถ้าพูดข้อดีของโครงการนี้ก็มีอยู่มาก เพราะเมื่อมีโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ทำให้การท่องเที่ยวนั้นขับเคลื่อนได้ดีทีเดียว
- ทวนเงื่อนไข! สิทธิประโยชน์ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส4 ลงทะเบียนวันนี้! ใช้ได้ถึงต.ค.65
- เริ่มวันนี้ เราเที่ยวด้วยกัน เฟส4 เปิดขั้นตอนลงทะเบียนจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน
- เช็กวันหมดอายุ! เราเที่ยวด้วยกัน เฟส4 ครม.ใจดี เพิ่ม2ล้านสิทธิ์ เน้นเที่ยวเมืองรอง
แต่กับข้อเสียถ้าเห็นๆกันเลยก็น่าจะเป็นเรื่องของระบบความล่าช้าในการลงทะเบียนและต้องแย่งชิงสิทธิกับประชาชนทั้งประเทศ แต่ล่าสุด มีปมใหม่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Tiktok รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์คลิปที่ตนเองนั้นเกือบโดนหมายจับและตกเป็นพยาน หลังจากเข้าร่วมโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน เมื่อสองปีที่แล้ว แต่เมื่อไปเที่ยวกลับมาได้นานกว่า 2 ปี หนุ่มคนนี้ต้องเสียเงินค่าเครื่องบิน จาก กทม. ไป ภูเก็ต รวมถึงต้องจ่ายค่าที่พักเอง เพื่อไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ และยังไปเจอผู้ร่วมชะตากรรมอีกคนด้วย โดยชายคนนี้กล่าวในคลิปว่า
โกงเราเที่ยวด้วยกัน
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีที่แล้วนะครับผมใช้โครงการเราเที่ยวด้วยกันที่จังหวัดภูเก็ต ไปพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรใช่ไหมครับ แต่ล่าสุดครับมีหมายมาที่บ้านผมครับ บอกว่าให้ผมไปให้ปากคำในฐานะพยาน และถ้าหมายเรียกสองครั้งไม่มา เค้าจะออกหมายจับครับ ผมก็ต้องควักตังค์จ่ายค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พักค่ารถ เพื่อเดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้งหนึ่ง ไปสอบปากคำในฐานะพยาน และเชื่อไหมครับเมื่อผมเดินทางไปถึงสถานีตำรวจ มีพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาหาผมแล้วพูดว่า น้อง…พี่ต้องตอบตำรวจเค้าว่ายังไง ผมเลยถามเข้าไปว่าพี่ได้มาพักไหมครับ เค้าบอกว่าเค้าไม่ได้มาพักครับ ผมบอกว่าผมต้องตอบตามความจริงครับเพราะผมเข้ามาพัก แต่ผมก็สมัครโครงการนี้ด้วยตัวเอง ทำให้ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าการที่ผมถูกเรียกสอบในครั้งนี้ เกิดการทุจริตบางอย่าง ผมถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาบอกว่ามีการทุจริตในโครงการนี้จริงๆ เค้าจะส่งหมายเรียกไปวันหนึ่งเป็น 100 คนเลยครับ แต่เชื่อไหมครับว่า มีคนมาให้สอบปากคำเพียงแค่วันละ 10 คนเท่านั้น
และหนุ่มคนนี้ก็ได้ออกมาอัดคลิปอัพเดทเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่าเมื่อศึกษาข้อมูลจากเพื่อนๆที่มาคอมเมนต์แล้ว มันเหมือนคือการขายสิทธิบัตรประจำตัวประชาชนให้กัน มีนายหน้า ทำกันเป็นกระบวนการและโรงแรมที่เปิดให้ใช้สิทธิก็มีส่วนได้รายได้จากกระบวนการนี้ด้วย ซึ่งหนุ่มคนนั้นแค่รู้สึกว่า เงินที่ได้เที่ยวฟรีเมื่อ 2 ปีก่อน กลับต้องมาเสียให้กับการมาให้ปากคำในครั้งนี้ และฝากว่าอย่าโกงอะไรแบบนี้อีกเพราะมันเดือดร้อนคนอื่น
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY