ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นางแองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แถลงพร้อมนายโอลาฟ ชอลซ์ ว่าที่นายกฯ คนใหม่ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ประกาศมาตรการล็อกดาวน์คนไม่ฉีดวัคซีนทั้งประเทศ เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ที่ยุโรปหวนกลับมาเป็นศูนย์กลางการระบาดของโลกช่วงเวลานี้ รวมถึงการพบเชื้อกลายพันธุ์โอไมครอน
คนไม่ฉีดวัคซีนจะถูกห้ามเข้าสถานที่ต่างๆ ทั้งหมด ยกเว้นสถานที่ที่จำเป็น เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายยา การพบปะจะอนุญาตให้คนไม่ฉีดวัคซีนพบปะบุคคลต่างครอบครัวได้เพียง 2 คน ส่วนคนที่หายป่วยจากโควิดแล้วจะไม่ถูกบังคับใช้มาตรการนี้
สำหรับพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคในอัตรา 350 คนต่อประชากร 1 แสนคน ห้ามเปิดบาร์และไนต์คลับ นอกจากนี้ยังเริ่มจำกัดจำนวนการรวมตัวของคนหมู่มาก เช่น แฟนบอลที่เข้าชมการแข่งขันในสนาม
มาตรการดังกล่าวมาจากการตัดสินใจของที่ประชุมผู้นำแคว้นต่างๆ ในเยอรมนี เพื่อหาทางควบคุมการระบาด และเป็นการทิ้งทวนในตำแหน่งของนายกฯหญิงแมร์เคิลที่บริหารประเทศมายาวนาน 16 ปี
“เราต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ตอนนี้ร้ายแรงมาก เราต้องใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อรับมือ คลื่นการระบาดลูกที่สี่จะต้องถูกสลาย ซึ่งตอนนี้ยังทำไม่สำเร็จ” นางแมร์เคิลกล่าว
นายกฯ แมร์เคิล และว่าที่นายกฯ ชอลซ์ยังสนับสนุนแผนการออกคำสั่งให้ประชาชนฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ซึ่งหากแผนนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภา จะมีผลบังคับใช้ได้อย่างเร็วที่สุด เดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
ทั้งนี้ คนที่ฉีดวัคซีนเข็มสุดท้ายผ่านพ้นไปแล้ว 9 เดือนจะเสียสถานะว่าเป็นผู้ฉีดวัคซีนแล้ว จำเป็นต้องไปฉีดเข็มบูสต์เพิ่ม
…………
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
เยอรมันสังเวยโควิด “ทะลุแสน” ป่วยรายวันพุ่ง 76,000 คน สูงสุดเป็นประวัติการณ์