เพจหมอ อย่าง The Doc Life โพสต์ชื่นชม 2 พส. หลังให้คำแนะนำผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ในไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ชี้เข้าใจ และมองโลกได้ตามความเป็นจริง
ยังคงมีประเด็นให้โลกออนไลน์ได้พูดถึงเกือบทุกวัน กับ 2 พส พระนักเทศน์จากวัดสร้อยทอง อย่างพระมหาไพรวัลย์ พระมหาสมปอง ที่ก่อนหน้านี้ถือเป็นประเด็นที่โลกออกไลน์ให้ความสนเป็นอย่างมาก อีกทั้งมีผู้เข้าชมผ่านไลฟ์สดกว่าสองแสนคน จากสไตล์การเทศน์ที่ไม่เหมือนใคร ทำให้กลายเป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ ทั้งนี้กลับมีประเด็นตีกลับในด้านของความเหมาะสมอีกด้วย
ล่าสุด 2 พสได้ไลฟ์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 กันยายน 25654 และเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังมีคอมเมนท์ทางทางบ้านถามเข้ามาระหว่างไลฟ์ขอคำปรึกษาไปว่าตนป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามา 7 ปีแล้ว ซึ่งพระมหาไพรวัลย์ ท่านได้ทำคำตอบอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งคำตอบนั้นกลับเป็นการปแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ และยอมรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
“เราต้องยอมรับตัวเองให้ได้ว่าเราป่วย แล้วไปปรึกษาหมอ ไปหาจิตแพทย์ เข้าสู่กระบวนการรักษาให้ถูกทาง ต้องไปหาหมอนะ อย่าคิดว่าป่วยแล้วมาปฏิบัติธรรมจะหายนะ วัดเรามีแม่ชีกระโดดน้ำ มีพระผูกคอเพราะเป็นซึมเศร้า อย่าปล่อยไว้นะไปหาหมอนะ”
พระมหาไพรวัลย์
ทั้งนี้ประเด็นของคำแนะนำผู้ป่วยโรคซึมเศร้า จากพระมหาไพรวัลย์ ถึงหูเพจหมออย่าง The Doc Life อีกทั้งยังโพสต์ชื่นชมจากคำแนะนะของพระท่าน ว่าเข้าใจ และมองโลกได้ตามความเป็นจริง ไม่เน้นเพียงความศรัทธา โดยเผยเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หมอเข้าใจดี เพราะหมอรู้ หมอเคยเป็น
โรคซึมเศร้า หลายๆครั้ง ไม่ใช่แค่ปัญหาจากภายนอก หรือแค่เรื่องจิตใจอย่างเดียว มักเกิดจากปัญหาในเรื่องของสารสื่อประสาทในสมองโดยมีปัจจัยภายนอกเป็นตัวกระตุ้น ทำให้เกิดความเบื่อหน่อย ท้อแท้ ไร้แรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป รู้สึกตัวเองไร้ค่า หมอรู้ หมอเคยเป็น
สมัยแอดมินเป็นโรคซึมเศร้า ด้วยปัญหาที่บ้าน ด้วยความผิดพลาด ผิดหวังในหลายๆอย่าง ประกอบกับ การเรียนที่หนัก สอบถี่ ไม่มีเวลาให้พักใจ …สิ่งที่แอดมินทำ คือการบอกพ่อแม่ ระบายปัญหา สิ่งที่อัดอั้นตันใจ หวังว่าท่านจะช่วยอะไรได้บ้าง ซึ่งท่านก็ช่วยได้บ้างแม้จะไม่ทั้งหมด แต่อย่างน้อย ท่านก็ช่วยผ่อนคลายจิตใจเราไปในส่วนหนึ่ง “การเล่า การระบายให้คนที่เราไว้ใจ” เป็นหนึ่งในข้อที่สำคัญ
ขณะเดียวกัน เมื่อพ่อแม่เอาไปปรึกษาญาติพี่น้องคนอื่นเรื่องปัญหาของเรา สิ่งที่พวกเขาแนะนำคือ ลองไปเข้าค่ายธรรมะ วิปัสสนามั้ย ลองไปเล่นโยคะมั้ย ไปเข้าวัด สนทนาธรรมกับพระอาจารย์มั้ย
ซึ่งถามว่า ลองทำมั้ย …ทำหมด หวังว่าจะผ่อนคลายอารมณ์ได้ดีขึ้น เข้าใจชีวิตได้มากขึ้น สุดท้าย สิ่งที่เรารับรู้ได้ คือ…วิธีนี้ ไม่ได้เหมาะกับตัวเรา ..เข้าค่ายธรรมะ วิปัสสนา ช่วยผ่อนคลายได้บ้าง แต่สุดท้าย เราต้องไปถูกบีบรัด ด้วยกฏระเบียบ ที่ทำให้เราอึดอัดในค่ายนั้นอยู่ดี….เล่นโยคะ ตอนเล่นคลายความฟุ้งซ่านได้บ้าง แต่พอเล่นเสร็จ เครียดยิ่งกว่าเดิม เหนื่อย ปวดเมื่อยตัว หงุดหงิด นอนไม่หลับ …เข้าวัดสนทนาธรรม อาจเพราะไม่ได้พบพระอาจารย์ที่เทศนาได้เก่งอะไรมากมาย เรากลับยิ่งรู้สึกว่า ท่านเข้าใจแต่เพียงทฤษฎี ท่านดูไม่มีประสบการณ์จริงที่พร้อมจะเข้าใจเราจริงๆเลย กลับยิ่งรู้สึกว่า ไม่มีใครเข้าใจเรา มากไปใหญ่ ทุกคนส่งมอบสิ่งที่ตนเองคิดว่าดี แต่เราตีความไปว่า พวกเขา “ยัดเยียด”สิ่งที่ตัวเองคิดว่าดี ให้เราทำ
สุดท้าย สิ่งที่ช่วยแอดได้ คือ มานั่งทบทวนตัวเอง ว่า “ณ ตอนนี้ เราต้องการอะไร” และ “อะไรที่เราสามารถทำเพื่อสนองความต้องการนั้นได้”จั่วหัวมาแต่แรกแล้วว่า เครียดมาก เรียนหนัก สอบถี่ ไม่มีเวลาพักใจ จึงตัดสินใจ ดรอปเรียน และปรึกษาอาจารย์จิตเวช รับการรักษาอย่างจริงจัง
ทุกวันนี้ หายขาด และจิตใจค่อนข้างแข็งแกร่งและเข้าใจโลกมากกว่าเดิม เราเศร้ากับเรื่องต่างๆยากขึ้น เราใช้เหตุผลในการใช้ชีวิตมากขึ้นเราเติบโตมาได้ จากการผ่านมันมา อย่างถูกวิธี …จากทวีตนี้ บ่งบอกได้ชัดเจนว่า พระมหาไพรวัลย์ เข้าใจ และมองโลกได้ตามความเป็นจริง ไม่เน้นเพียงความศรัทธาอย่างที่ท่านบอก แม้แต่คนที่บวช ปฏิบัติธรรมตลอดเวลา ยังหนีความทุกข์ไม่พ้น แต่ไม่ใช่ว่า การปฏิบัติธรรมช่วยอะไรไม่ได้ เน้นย้ำอีกครั้งว่า “วิธีที่เราทำ เหมาะกับตัวเรามั้ย?”บางครั้ง ศรัทธา ก็ช่วยให้เรามีหวัง ช่วยเยียวยาจิตใจ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
อ้อ อีกอย่าง บางคนอ่านบทความมาถึงตรงนี้ อาจรู้สึกเล็กๆได้ว่า ตอนนั้นแอดมินมีอคติกับวิธีการหรือเปล่า เลยไม่โอเคกับวิธีนั้นๆบอกเลยว่า “มี”แต่ถามว่า เมื่อเรามีภาวะซึมเศร้า คนที่เคยเป็น จะรู้ว่า อารมณ์ อคติ ตรรกะที่ผิดเพี้ยน เกิดขึ้นได้ตลอดเวลากับคนที่มีภาวะนี้ พอเราหาย มองย้อนกลับไป เรายังคิดเลยว่า ตอนนั้นทำอย่างนั้นไปได้ยังไงนะ ตอนนั้น ทำไมคิดไม่ได้นะ
ไม่มีใคร เอาชนะสารสื่อประสาทในสมองได้หรอกครับ ซึ้งในรสพระธรรมแค่ไหน ถ้าสารสื่อประสาทมากหรือน้อยไป อารมณ์ก็จะมาเหนือเหตุผลของคุณเองโดยอัตโนมัติธรรมะ คือ ความธรรมดา ความธรรมดา เป็นธรรมชาติของทุกสิ่ง หมอรู้ หมอเข้าใจ เพราะหมอเคยเป็น และ….หมอผ่านมันมาได้แล้ว
สามารถติดตามข่าวสาร และ อัปเดทสถานการ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
ข่าวที่น่าสนใจ