วันที่ 4 ธันวาคม 2566 จากคลิปไวรัลที่กำลังถูกพูดถึงบนโลกโซเชียล กรณี เผายาหน้าท้อง ของคลินิกแห่งหนึ่ง ที่มีสาวรายหนึ่งเข้าไปใช้บริการรับการรักษาด้วยการเผายาหน้าท้อง จากคลิปจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ในช่วงขั้นตอนของการรักษา เมื่องาททีมหมอใส่ตัวยาวางไว้บนหน้าท้องเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้ใช้ไฟแช็กจุดเผายา แต่กลับเกิดเรื่องผิดพลาดไม่ทราบสาเหตุใด ส่งผลให้ไฟลุกลามไปทั่วตัวของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ทั้งผู้ป่วย หมอ และทีมดูแลที่อยู่ในห้องต่างตกใจ ช่วยกันดับไฟบนตัวหญิงสาวจ้าละหวั่น
ล่าสุด วันนี้ (4 ธ.ค. 66) เวลาประมาณ 10.00 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาเน็ตไอดอลสาวรายดังกล่าว เข้าร้องทุกข์และขอความช่วยเหลือในการตรวจสอบเอาผิดคลินิกเสริมความงามชื่อดังย่านรามอินทรา ที่ปล่อยให้แพทย์ใช้วิธีการรักษาด้วยการเผายาหน้าท้อง จนไฟลุกลามไปทั่วตัว หนำซ้ำแพทย์ยังวิ่งหนีไม่ช่วยเหลือคนไข้ จนทำให้คนไข้ ซึ่งเป็นเน็ตไอดอลได้รับบาดเจ็บสาหัส โดย กัน จอมพลัง กล่าวว่า ได้ประสานกับทาง นพ.ชลน่าน เมื่อวานนี้ และวันนี้ได้รับการรับเรื่องทันที วันนี้พาน้องมาขอความช่วยเหลือ หลังจากเกิดเรื่อง ทางคลินิกกับหมอโยนกันไปมา น้องจ่ายเงินรักษาตัวเอง ทั้งประกันทั้งอะไรแต่ยังควักเนื้อรวม 3 แสนกว่าบาท ตอนนี้หมอก็ไปต่างประเทศ ส่วนคลินิกก็ทำเบลอๆ จึงต้องมาขอความช่วยเหลือเยียวยาครั้งนี้ และทางคลินิกเปิดการรักษาแบบนี้ได้อย่างไร ระบบเซฟตี้ไม่มีเลย จึงขอให้กระทรวงไปดูว่าเขาทำถูกต้องหรือไม่
- ดราม่า! ขายโลหิตบริจาค สภากาชาด โร่แจง เป็นแค่ค่าบริการตามต้นทุน
- สลด! หนุ่มขี่มอไซค์ชนเสาไฟ พบที่เกิดเหตุซ่อมถนน แต่ไฟสัญญาณไม่ติด
- เปิดใจ ดร.เค็ง ป่วยทางจิต เผย รู้สึกเจ็บปวด เพราะไม่ได้เป็นอาจารย์แล้ว
ทางด้าน สาวเน็ตไอดอล กล่าวว่า ไปรับการรักษา เนื่องจากได้รับการติดต่อมาให้เข้าไปทำการรักษา รูปแบบการโปรโมท ซึ่งระหว่างการรักษา เกิดความผิดปกติ โดยวิธีการนี้ต้องทำถึง 5 ครั้ง แต่ผิดพลาดตั้งแต่ครั้งที่ 2 เราได้เตือนหมอแล้ว แต่ไม่ฟัง จนไฟลุกลาม อีกทั้ง หมอคนนี้ยังพูดทำนองว่าคนอื่นทำไม่เคยเกิดเรื่อง มาเกิดที่เรา หนูเจ็บปวดมาก ทรมานมาก หนูกลัวผลกระทบเรื่องงาน เพราะอีกสัปดาห์ต้องทำงานอีก แต่ปรากฎว่าต้องเข้ารับการรักษาที่รพ. นอนรักษาอยู่ 2 เดือน ซึ่งหมอบอกว่าไหม้ระดับ 3 ลามประมาณกว่า 10% แต่โชคดีไม่ติดเชื้อ โดยตลอดการรักษา ทางคลินิกยังเยียวยาช่วยอยู่ ทางเราก็ใช้ประกันฯ แต่เมื่อเราออกจากรพ. ซึ่งต้องรักษาต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายค่อนข้างหหนัก พอเป็นแบบนี้ก็ไม่มีการช่วยเหลือ ตอนนี้กระทบการงานเรามาก
ทั้งนี้ นพ.รุ่งเรือง หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง กล่าวว่า จะส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบคลินิกดังกล่าว ทั้งมาตรฐานการรักษา การจดทะเบียน การขออนุญาต รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นจากภาพเหตุการณ์ก็ส่อให้เห็นถึงความผิดหลายประการของวิชาชีพ ขณะเดียวกันกระทรวงสาธารณสุขจะประสานไปยังแพทยสภา เพราะกำกับดูแลแพทย์ทั้งประเทศว่า การดำเนินการดังกล่าวเข้าข่ายผิดอะไรอย่างไรบ้าง ข้อมูลเบื้องต้น พบว่า “จดทะเบียนเป็นคลินิกเสริมความงาม ไม่ได้มีส่วนของแพทย์แผนไทย ดังนั้น จึงไม่สามารถกระทำได้”