นางแบบสาววัย 22 เอาชนะความกลัว กลับมายืนต่อหน้าทุกคนเพื่อเล่าฝันร้าย 3 ปี หลังถูกพิทบูลขย้ำจนหน้าเสียโฉม ไม่มีริมฝีปากบน

Brooklinn Khoury วัย 22 ปี เป็นนางแบบและนักโต้คลื่น ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานของเธอ กำลังจะมีโฆษณาทางโทรทัศน์เรื่องแรกด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2020 เธอไปเยี่ยมญาติในรัฐแอริโซนา และถูกสุนัขพิทบูลของครอบครัวทำร้าย

หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้น ทำให้บรูคลินน์เปลี่ยนความคิดเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกอย่างสิ้นเชิง เมื่อต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งโดยมีค่าใช้จ่ายรวมสูงถึง 400,000 ดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 14 ล้านบาท) แพทย์พยายามอย่างมากที่จะรักษาอาการของเธอให้ดีขึ้น ด้วยความหวังว่าจะมีรูปร่างหน้าตาที่ปกติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อการทำงานและการใช้ชีวิตต่อจากนี้ไป

ในการให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ Good Morning America ทางช่อง ABC บรู๊คลินน์สารภาพว่า “ฉันตระหนักได้ว่าญาติและเพื่อนๆ เข้ามาในชีวิตฉันด้วยเหตุผลบางอย่าง พวกเขาช่วยให้ฉันรู้ว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตนี้ ที่สำคัญกว่าการมีร่างกายที่งามสมบูรณ์แบบ”

กว่า 3 ปีหลังจากประสบเหตุการณ์สุนัขกัด บรูคลินน์กล่าวว่าเธอได้เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และยอมรับในความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง จริงๆ แล้วมีแพทย์ด้านความงามไม่กี่คนที่มั่นใจในการรักษาเธอ โดยแพทย์ที่รักษาเธอมา 3 ปี ก็ได้บอกเล่าปัญหาให้เธอฟังโดยตรงมาเสมอ เพื่อให้เข้าใจว่าขั้นตอนการรักษาก็เป็นการทดสอบที่ยากสำหรับเขาเช่นกัน

ทั้งสองคนต้องยอมรับว่าจะมีความเสี่ยงและสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ เพราะสิ่งที่พวกเขาทำนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยแพทย์นำผิวหนังจากข้อมือของบรูคลินน์มาทำริมฝีปากเทียมให้เธอ หลังจากผ่านการผ่าตัดอันเจ็บปวด ปัจจุบันรูปลักษณ์ของเธอดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม เธอยังต้องเข้ารับการผ่าตัดเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงความสวยงามของบริเวณผิวหนังที่ปลูกถ่าย

แต่ตอนนี้บรูคลินน์รู้สึกพอใจกับตัวเอง เธอรู้สึกมั่นใจกับรูปลักษณ์ปัจจุบัน และมักแบ่งปันรูปถ่ายลงบนบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตัดสินใจเล่าให้แฟนๆ ฟังเกี่ยวกับอาการของเธอ รวมถึงขั้นตอนการรักษาที่เธอต้องเผชิญ พร้อมกับส่งข้อความเชิงบวกไปยังเหล่าผู้ติดตาม เช่น “หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาฉันก็รู้ว่าชีวิตนี้ช่างสวยงาม… แต่อย่าลืมสนุกไปกับประสบการณ์ในแต่ละวันที่ผ่านไป แต่ละวันของชีวิตเรามีค่า พยายามใช้ชีวิตด้วยศรัทธาและความหวังแม้บางครั้งจะยากลำบากก็ตาม”

ทั้งนี้ บรูคลินน์ยังเล่าด้วยว่า มีคนแนะนำเธอว่าอย่าโพสต์รูปถ่ายและคลิปที่แสดงใบหน้าที่เสียโฉม แต่เธอยังคงแบ่งปันทุกขั้นตอนของการฟื้นตัวอย่างจริงใจ เพราะเธอเชื่อว่าเรื่องราวนี้จะมีความหมายกับผู้คนที่กำลังเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่นกัน “ฉันรู้ดีว่าตอนนี้รูปร่างหน้าตาของฉันเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเกิดเหตุ ฉันรู้ว่าบางครั้งฉันดูน่ากลัวมาก แต่การซ่อนตัวเองยังไม่เพียงพอ คุณจะช่วยฉันได้อย่างไรในเวลานี้? ในขณะเดียวกัน การแชร์เรื่องราวของฉันก็ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขมากขึ้น เพราะฉันรู้ว่าเรื่องราวของฉันสามารถช่วยเหลือคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกันได้”

ครอบครัวและเพื่อนๆ ของเธออยู่เคียงข้างบรูคลินน์ตลอดการรักษา ญาติๆ ช่วยให้เธอเอาชนะวิกฤติทางจิตหลังเกิดเหตุได้ กระบวนการรักษาใช้เวลานานและต้องใช้ความเจ็บปวดมาก งานและชีวิตที่ถูกระงับถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ ทำให้บรูคลินน์พยายามรักษาสุขภาพจิตของเธอให้อยู่ในสภาวะที่สมดุลและมั่นคงอยู่เสมอ มีหลายครั้งที่เธอรู้สึกกลัวเมื่อนึกถึงอนาคต และไม่รู้ว่าในชีวิตนี้เธอจะสามารถยิ้มได้อีกครั้งหรือไม่

“ชีวิตของฉันก็เปลี่ยนไปอย่างมากในเวลาเพียงชั่วครู่ ท้ายที่สุด ฉันตระหนักได้ว่าชีวิตของเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทันที ดังนั้นมาซาบซึ้งกับมันกันเถอะ ชื่นชมทุกช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิต… ฉันได้เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง รักทุกสิ่งรอบตัว และไม่ยึดถือสิ่งที่ฉันมีอีกต่อไป ฉันกลายเป็นคนที่มีความสุขมากขึ้น ฉันรู้ว่าฉันมีสิ่งต่างๆ มากมายในชีวิตนี้” บรูคลินน์ กล่าว