กรมควบคุมโรคลงพื้นที่เฝ้าระวังสุขภาพคนระยอง กรณีน้ำมันพิบรั่วลงทะเล พร้อมเจาะเลือดตรวจปัสสาวะเจ้าหน้าที่กู้คราบน้ำมัน 241 คน อยู่ระหว่างรอผล ส่วนผลตรวจสารเบนซีนและไซลีนในบรรยากาศไม่เกินค่ามาตรฐาน
วันที่ 31 ม.ค.2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงการเฝ้าระวังสุขภาพกรณีน้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเล จ.ระยอง ว่า ขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจ.ระยอง รพ.ระยอง สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี และศูนย์พัฒนาวิชาการอาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง
ได้ลงพื้นที่เฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพให้กับประชาชน และตรวจคัดกรองเจ้าหน้าที่เก็บกู้น้ำมันดิบ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา 241 คน เก็บสิ่งส่งตรวจ ปัสสาวะ 238 คน และตัวอย่างเลือด 241 คน อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ รวมถึงตรวจวัดระดับความเข้มข้นของสาร เบนซีน (Benzene) และ ไซลีน(Xylene) ในบรรยากาศ ในบริเวณพื้นที่ปฏิบัติการและพื้นที่ใกล้เคียง ผลไม่พบค่าเกินมาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนหน้ากากป้องกันสารเคมี ชนิด R95 ให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันไอระเหยจากน้ำมันดิบ รวมถึงสื่อสารความเสี่ยงเน้นย้ำการเฝ้าระวัง สังเกตอาการ ดูแลสุขภาพของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน และการปฏิบัติตนของชุมชน ร้านค้า รีสอร์ต โรงแรมบริเวณชายหาด โดยสถานการณ์ปัจจุบันไม่พบคราบน้ำมันดิบบริเวณหาดแม่รำพึงถึงลานหินขาว มีเพียงบริเวณลานหินขาวถึงเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ดระยะทาง 2 ก.ม. ที่พบการกระจายของคราบเป็นลักษณะฟิล์มใส
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจ.ระยอง และรพ.ระยอง สื่อสารความเสี่ยงโดยจัดทำสื่อต้นแบบ เช่น 1 แนวทางการดูแลรักษาผู้ได้รับสัมผัสสำหรับบุคลากร 2 คำแนะนำในการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนทั่วไป กรณีเหตุน้ำมันรั่วไหล 3 แนวทางการปฏิบัติงานกรณีน้ำมันรั่วไหล 4 แนวทางการเก็บสิ่งส่งตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และ 5 แบบเฝ้าระวังสุขภาพกรณีน้ำมันดิบ เป็นต้น
“ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ปฏิบัติงานโดยยึดหลักความปลอดภัย รวมถึงให้ประชาชนระวังผลกระทบทางสุขภาพ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ประชาชนไม่ควรเข้าใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ และห้ามนำสัตว์ทะเลที่ตายบริเวณชายหาดมารับประทาน
หากมีการสัมผัสคราบน้ำมันดิบบริเวณผิวหนังหรือดวงตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด หมั่นสังเกตอาการตนเองและคนใกล้ชิด หากมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ตาพร่ามัว แสบตา ตาแดง ผิวหนังอักเสบ มีผื่นแดง ให้รีบไปพบแพทย์ทันที” นพ.โอภาสกล่าว