อนุทิน” เผยผลตรวจผู้ป่วยสงสัยเข้าไทย ไม่ใช่ “ฝีดาษลิง” แต่เป็น “เริม” แต่ก็ต้องตรวจสอบว่าสัมผัสใครบ้าง ก็ต้องตรวจและขอให้มาแสดงตน
วันที่ 27 พ.ค. 65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิงว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ตนเดินทางกลับมาจากการประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก (WHA) เมื่อเข้ามาถึงด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ นพ.โรม บัวทอง นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกองระบาดวิทยาและกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค พาดูขั้นตอนมาตรการเฝ้าระวังที่สนามบิน
ย้ำว่าผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยยังต้องลงทะเบียนผ่าน Thailand pass หากผู้ที่สงสัยป่วยเป็นโรคฝีดาษลิง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็สามารถนำตัวอย่างเชื้อหรือสารคัดหลั่งมาตรวจวินิจฉัยได้ว่าเป็นฝีดาษลิงหรือไม่ เนื่องจากมี DNA Code อยู่
“อย่างกรณีชาวต่างชาติที่พบว่าเป็นผู้ที่เข้าข่ายสงสัยก็ได้เชิญมาสถาบันบำราศนราดูร และเก็บตัวอย่างไปตรวจ ซึ่งพบว่าเป็นการติดเชื้ออื่น คือ เริม แต่ไม่ว่าจะเป็นเชื้ออะไรก็ต้องระวังในเรื่องของการสัมผัสใกล้ชิด ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือบ่อย ๆ และการเว้นระยะห่าง ก็จะช่วยได้มากให้ห่างไกลความเสี่ยงติดเชื้อฝีดาษลิง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการตรวจเชื้อผู้ที่สงสัยมากน้อย นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้ตรวจตามที่เราได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย อย่างรายนี้ก็ต้องไปดูว่าสัมผัสใคร ซึ่งเท่าที่ทราบก็มีจำนวนหนึ่ง ก็ต้องตรวจติดตามและขอให้มาแสดงตน เพราะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นเชื้ออะไรก็ตาม เช่น เริม หรือสุกใส
เมื่อถามว่าจะมีการกักตัวผู้ที่สงสัยว่าจะป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า หากเข้าข่ายก็จะมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่อนุญาตให้กักตัวได้ อย่างน้อยก็ในช่วงที่รอการตรวจหาเชื้อ
เมื่อถามข้อมูลเบื้องต้นของผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อที่ได้รับการกักตัว นายอนุทินกล่าวว่า มาจากประเทศทางตะวันตก แอฟริกา โดยเราได้เฝ้าระวังทั้งหมด กรมควบคุมโรคได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน(EOC) กรณีโรคฝีดาษลิงขึ้นมาแล้ว เพื่อเตรียมพร้อมเฝ้าระวัง