เปิดไทม์ไลน์ทุบ ‘เพนนินซูล่า’ คาดใช้เวลารื้อ 8 เดือน ก่อนผุดโรงแรมหรู 4.6 พันล้าน เปิดต้นปี 2570 รองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติ แลนด์มาร์กใหม่กลางกรุง
เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากห้างหรูหราระดับตำนาน “เดอะ เพนนินซูล่า พลาซ่า” ปิดตัวลงไปเมื่อปลายปี 2564 ล่าสุดมีรายงานจากสื่อบางสำนักว่า มีการแปะกระดาษพร้อมข้อความที่ระบุว่า “ประกาศปิดศูนย์การค้าเพนนินซูล่า พลาซ่า ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.65 เป็นต้นไป” ถือเป็นการปิดฉาก-รูดม่านห้างสรรพรสินค้าสุดหรูเจ้าแรก ๆ ในแถบถนนราชดำริ-ราชประสงค์ไปในที่สุด
โดยศูนย์การค้าแห่งนี้ ตั้งอยู่บนที่ดิน 3 ไร่เศษ มีสำนักงานบริหารจัดการทรัพย์สิน วชิราวุธวิทยาลัย เป็นเจ้าของ และมีบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด (LHMH) ในเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เป็นผู้เช่าพัฒนาโครงการ
เมื่อปี 2563 สำนักงานบริหารจัดการทรัพย์สิน วชิราวุธวิทยาลัย นำที่ดินแปลงดังกล่าวเปิดประมูลใหม่ โดยมีบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ผู้เช่ารายเดิมเป็นผู้ชนะประมูล และได้สิทธิการพัฒนาระยะเวลา 30 ปี โดยสัญญาจะเริ่มนับหนึ่งหลังสัญญาเดิมสิ้นสุดปลายปี 2565
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการทางบริษัทอยู่ระหว่างทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) หากได้รับอนุมัติจะเริ่มเดินหน้าพัฒนาโครงการทันที หลังได้รับมอบพื้นที่
โดยจะรื้อถอนอาคารเพนนินซูล่า พลาซ่า เป็นอาคารสูง 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ให้เสร็จใน 8 เดือน จากนั้นสร้างอาคารขึ้นมาใหม่ พัฒนาเป็น “โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ ราชดำริ 2”
ก่อนหน้านี้ “สุวรรณา พุทธประสาท” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล เอชมอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด เปิดเผยว่า “โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยต์ ราชดำริ 2” จะใช้เงินลงทุน 4,600 ล้านบาท ก่อสร้างเป็นอาคารสูง 40 ชั้น จำนวน 509 ห้อง ประกอบด้วย ห้องพัก ห้องจัดเลี้ยง ห้องอาหาร และห้องสัมมนา
ตามแผนจะได้รับมอบพื้นที่ในปี 2565 เริ่มก่อสร้างปี 2566 แล้วเสร็จปลายปี 2569 เปิดบริการต้นปี 2570 รองรับกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป็นหลัก ทั้งนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็ค และนักธุรกิจที่มาประชุมสัมมนา
นางสุวรรณา กล่าวว่า สาเหตุที่ขยายการลงทุนที่ราชดำริเพิ่ม เนื่องจากพื้นที่มีขนาดเล็ก ต้องสร้างอาคารแนวสูง และการจะพัฒนาเป็นศูนย์การค้าเหมือนเดิมจะไม่ซักเซส เพราะศูนย์การค้าไม่ต้องสร้างเป็นตึกสูงมาก เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าจะไม่ชอบเดินไปชั้นบนๆ จะเดินเฉพาะชั้นล่างๆ ชอบบรรยากาศแบบโปร่งโล่งมากกว่า
“เรามองว่าทำเลนี้การพัฒนาเป็นโรงแรมน่าจะตอบโจทย์ดีที่สุด เพราะช้อปปิ้งมอลล์ในย่านนี้มีมากแล้ว เราจะเข้าไปลงทุนอีกทำไม สู้สร้างโรงแรมให้ลูกค้ามาพักเพื่อไปช้อปปิ้งดีกว่า ซึ่งแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ 2 จะเป็นโรงแรมระดับไฮเอนด์กว่า แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ราชดำริ 1 ที่อยู่ในซอยมหาดเล็กหลวง 1 เพราะอยู่ในโลเกชั่นที่ดีติดถนนราชดำริ ดังนั้นทุกอย่างต้องทำไฮเอนด์กว่า การดีไซน์จะโดดเด่นเสริมตึกแรก เหมือนกับทวิน ทาวเวอร์ที่ประเทศมาเลเซีย จะเป็นแลนด์มาร์กใหม่ในย่านนี้” นางสุวรรณา กล่าว
ที่มา มติชนออนไลน์