เปิดใจเมียหลวง! ผัวสร้างโลกสองใบ โอนเงินใส่ซอง 1 พัน รู้ถึงช็อกงานแต่งผัวตัวเอง พอจับได้อ้าง สันดานพี่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่ไม่รู้เอง
ผู้ใหญ่บ้านสาวสวยใจแกร่ง แต่ต้องใจสลาย เมื่อสามีสุดรักที่อยู่กินร่วมทุกข์สุข กันมากว่า 4 ปี แอบดอดหาแม่ไปให้ไปสู่ขอหญิงอื่น โดยสามีสุดแซบกรุเรื่องราวกับตนว่าไปแต่งพี่ชาย กลับบ้านลุกลี้ลุกลน จนพบหลักฐานงานแต่งสามีกับหญิงอื่น หัวใจแทบสลาย ตัดสินใจยิงคำถามทำไมพี่ถึงทำเช่นนี้กับหนู เจอคำตอบ”สันดานพี่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”
เมื่อวันที่ 27 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหมู่ 5 บ้านหัวลำ อ.ท่าหลวง ลพบุรี เพื่อพบกับผู้ใหญ่แอน อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้านสาวใจแกร่ง เพื่อสอบถามถึงเรื่องช็อกที่เกิดขึ้นในชีวิต เมื่อสามีที่อยู่กินกันมากว่า 4 ปี แอบไปสู่ขอหญิงอื่น
ผู้ใหญ่แอน เปิดใจว่า ตนกับสามีอายุ 42 ปี ต่างคนต่างเป็นเคยมีครอบครัวมาแล้ว และมีลูกติดมาคนละคน กระทั่งปี 2560 ได้มาพบกันและคบหาดูใจกันมาประมาณ 7-8 เดือน เมื่อความรักสุกงอม จึงตัดสินใจแต่งงานกันในปี 2561 และจดทะเบียนสมรสกันที่อ.วังม่วง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2564
ผู้ใหญ่แอน เล่าต่อว่า ตอนใช้ชีวิตคู่อยู่กันแบบไว้เนื้อเชื่อใจ สามีทำงานต่างจังหวัดและเจอกันแค่วันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งสามีทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเกษตร ต้องเดินทางออกต่างจังหวัดบ่อยครั้ง อีกทั้งสามีต้องกลับไปดูแลลูกสาววัย 15 ปีที่เรียนต่างอำเภอด้วย แต่ก็โทร.คุยและวิดีโอคอลหากันตลอดทุกวัน ซึ่งตนยังชื่นชมในความเป็นพ่อที่เอาใจใส่ดูแลลูกตัวเองและลูกของเราด้วยดีมาตลอด
“กระทั่งช่วงเดือนต.ค.2564 ปีที่ผ่านมา สามีเริ่มเปลี่ยนไป ไม่ค่อยกลับบ้าน จากได้คุยกันทุกวันก็อ้างว่ารับผิดชอบงานมากขึ้น ไม่มีเวลา และเหนื่อยจากการทำงาน แรกๆ ก็สงสาร เห็นใจ คิดว่าคงจะเหนื่อยกับงานจริงๆ และมาเริ่มรู้สึกสงสัยเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ทุกปีที่อยู่ด้วยกันสามีได้โบนัสมาเท่าไรจะนำมามอบให้หมดทุกบาทสตางค์ แต่ปีนี้กลับไม่มี ถามก็บอกว่าปีนี้บริษัทยังไม่จ่าย ซึ่งก็ไม่ได้หวังเงินส่วนนี้ ทางบ้านทางครอบครัวก็มีฐานะความเป็นอยู่ที่ไม่ลำบาก”
ผู้ใหญ่แอน เล่าอีกว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2565 จากความสงสัยเคลือบแคลงใจก็เริ่มมีเค้าลาง เมื่อสามีโทรมาหาบอกกับตนว่าจะไปรับแม่ พี่ชายและพี่สะใภ้ ที่สุโขทัย เพื่อที่จะพาพี่ชายและพี่สะใภ้ที่อยู่กินกันมานานแล้ว ไปผูกข้อต่อแขน เสียผีตามประเพณีทางเหนือที่จ.พะเยา ซึ่งเป็นบ้านของพี่สะใภ้ ตนยังถามไปว่าแล้วทำไมไม่มารับด้วย จะได้เดินทางไปแสดงความยินดีพร้อมกัน สามีบอกว่าตอนนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ลุกลามไปหลายจังหวัด กลัวตนเองจะมีความเสี่ยง อยู่ที่บ้านดีแล้วจะรีบเดินทาง ว่างแล้วจะโทรหา
หลังจากนั้นประมาณ 23.00 น. วันที่ 8 ม.ค. สามีถึงพะเยา ได้ส่งโลเคชั่นบ้านพี่สะใภ้มาให้ตนดู คิดว่าเป็นเรื่องจริงไม่ได้โกหก ด้วยความที่ไม่ได้ไปอวยพรงานพี่ชายสามี จึงขอเลขบัญชีและพี่สะใภ้ โดยโอนเงินใส่ซองแสดงความยินดีไป 1,000 บาท ช่วงเช้าวันที่ 9 ม.ค. ตนพยายามโทรสอบถามถึงความสุขของบ่าวสาว แต่ก็ถูกปฎิเสธ ซึ่งสามีอ้างว่ารับแขกแทนพี่ เสียงดังมาก และเมาแล้วด้วย เสร็จงานแล้วจะโทรหา แต่ก็ไม่โทรหาได้แต่พิมพ์ข้อความมาทางไลน์เพียงเล็กน้อย
ผู้ใหญ่แอน เล่าอีกว่า จนเมื่อวันที่ 13 ม.ค.65 สามีได้เดินทางกลับบ้านมา ทำตัวปกติ และยังได้เดินทางไปเที่ยวด้วยกันอย่างสนุกสนาน ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ม.ค. เห็นสามีพกโทรศัพท์มาอีกเครื่อง โดยอ้างว่าเป็นของลูกสาว จังหวะที่สามีเข้าห้องได้กดสุ่มรหัสผ่านโทรศัพท์เครื่องใหม่ โดยเดาเป็นวันเดือนปีเกิดของสามี สุดท้ายเปิดเครื่องได้ด้วยความสงสัยมานาน จึงไปที่เฟซบุ๊กพบว่าไม่ใช่เฟซบุ๊กของสามี พบมี 2 เฟซบุ๊ก จึงดูที่แชทพบว่ามีการพูดคุยกับหญิงสาวคนหนึ่ง คล้ายผัวเมียกัน มีการโอนเงินให้กันครั้งละหลายพันบาท โดยผู้หญิงบอกว่าท้องแล้ว และที่ทำให้โทรศัพท์แทบหลุดจากมือ คือ ภาพรูปงานแต่งงาน โดยเจ้าบ่าวคือสามีของตน เจ้าสาวหน้าตาสวยชาวจังหวัดพะเยา ทำให้รู้ทันทีว่าถูกหลอก
“ตอนนั้นตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก พยายามยิงคำถามด้วยหัวใจสลาย ที่บอกไปงานแต่งพี่ชายคือไปแต่งงานเองใช่ไหม ทำไมถึงทำแบบนี้ กลับได้คำตอบว่า “สันดานพี่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แต่แอนไม่รู้เอง” ตอนนั้นอึ้งกับคำตอบอยู่นาน พยายามข่มใจและตั้งสติ ระงับอารมณ์ บอกสามีให้กลับบ้านตัวเอง และได้ยึดโทรศัพท์ทั้งสองเครื่อง เก็บไว้เป็นหลักฐาน รวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้ทนาย เพื่อทำการฟ้องร้อง ทั้งสามีและเจ้าสาวใหม่”
ผู้ใหญ่แอน เล่าว่า ตนจะไม่ให้อภัย เนื่องจากหลอกกันเป็นทีม จะขอต่อสู้ทวงสิทธิของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกคนรักในคราบวายร้าย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งจะปรึกษาว่าจะฟ้องอย่างไรได้บ้าง แต่อยากจะบอกว่าคุณเป็นผู้ชาย ไม่ควรทำแบบนี้กับผู้หญิง ไม่ว่าเราและเขา จะขอเดินหน้าฟ้องร้องให้ถึงที่สุด