เปิดใจสุดช้ำ แม่ลูกนั่งหน้าบ้าน โดนเจ้าหนี้โหดหยอดกาวใส่ เผยขู่จะเผาบ้าน-ทำร้ายร่างกาย ปาหินใส่บ้านมาแล้ว ก่อนมาเจอเหตุการณี้นี้ ตัดสินใจเข้าแจ้งความตำรวจ
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.65 ที่สน.สายไหม นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหาย น.ส.จิราภรณ์ อายุ 43 ปี แม่ค้าตลาดนัด เข้ามาร้องทุกข์ถูกปล่อยเงินกู้ดอกโหดร้อยละ 60 ก่อนโดนใช้กาวร้อนหยอดรูกุญแจไม่ให้เข้าบ้าน หลังติดโควิด 10 วัน ทำให้หยุดขายของและไม่มีเงินส่งดอก
นายเอกภพ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมารับเเจ้งจากหญิงสาวรายหนึ่ง ในพื้นที่เขตสายไหม ถูกเจ้าหนี้ใช้กาวร้อนหยอดรู้ใส่กุญแจ ทำให้เข้าบ้านไม่ได้ ทีมงานได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบว่ามีหญิงสาววัยกลางคนกับลูกสาว นั่งรอความช่วยเหลืออยู่หน้าบ้าน พอสอบถามทราบว่า หลังจากที่ 2 แม่ลูก เพิ่งกลับจากขายของที่ตลาด เมื่อมาถึงหน้าบ้านเห็นกุญแจถูกหยอดกาวไว้ ทำให้เข้าบ้านไม่ได้ วันนี้จึงพาผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ ยืนยันเป็นหนี้ก็ต้องใช้คืน แต่หากเจ้าหนี้มีพฤติกรรมที่ผิดต่อกฏหมาย ข่มขู่คุกคามก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
น.ส.จิราภรณ์ กล่าวว่า เมื่อช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ตนติดต่อไปกู้เงินทางใบปลิวที่เจอตามตลาด ดอกร้อยละ 60 กู้เงินมา 20,000 บาท แต่ได้มาจริงๆ 16,000 บาท ต้องจ่ายดอกวันละ 400 บาท จนกว่าจะมีเงินต้นมาคืน ซึ่งที่ผ่านมาจ่ายมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตนติดโควิดไม่ได้ขายของ 10 วัน ทำให้ไม่เงินจ่ายดอก แต่เจ้าหนี้ไม่ยอมบอกให้หาเงินมาจ่ายให้ได้ ทักมาขู่จะเผาบ้าน ทำร้ายร่างกาย ส่งลูกน้องมาเขย่าประตู กดออดหน้าบ้าน ปาก้อนหินเข้ามา และที่หนักสุดใช้กาวร้อนหยอดรูกุญแจ เพื่อไม่ให้เข้าบ้าน ตนเลยติดต่อไปขอความช่วยเหลือ ทางเพจสายไหมต้องรอด
ที่ผ่านมาเคยกู้มาแล้ว 2 เจ้า มีเจ้าละ 8,000 บาท และ 10,000 บาท แต่ในช่วงที่ตนติดโควิด ขอจ่ายวันละ 100 บาท เขาก็ยอม มีแต่เจ้านี้รายนี้ที่ไม่ยอม ตนไม่อยากเป็นหนี้แต่จำเป็นต้องกู้ เพราะมีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ต้องหาเงินใช้หนี้รายวัน ซื้อของไปขายตลาด และดูแลพี่สาวที่ล้มป่วย บางครั้งไม่กล้าอยู่บ้านมีเจ้าหนี้มาทวงเงิน ต้องพาลูกเดินตากฝนไปอยู่ป้ายรถเมล์
น.ส.จิราภรณ์ กล่าวอีกว่า อยากบอกเจ้าหนี้ว่าอย่าข่มขู่กันเลย สงสารคนที่มีลูกบ้าง เด็กน้อยไม่รู้เรื่องต้องนอนผวา ที่มาแจ้งความก็รู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่มันมาถึงทางตันแล้ว ถ้าไม่แจ้งความก็จะโดนแบบนี้ตลอดเวลา
ขณะที่ พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลเบื้องต้น ล่าสุดฝ่ายสืบสวนพอจะทราบตัวเจ้าหนี้ที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งพบว่ามีประมาณ 2 คน หลังจากนี้จะสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดก่อน และประสานให้เจ้าหนี้เข้ามาสอบปากคำด้วยเช่นกัน