สหพันธ์ขนส่งฯ หอบหลักฐานส่วยรถบรรทุก เปิด 46 ชื่อเจ้าของส่วย ยื่นต่อ “วิโรจน์” พรรคก้าวไกล ลั่น “วันนี้เราพบแสงสีส้มที่ปลายอุโมงค์”
วันที่ 1 มิ.ย.66 นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย หอบหลักฐานส่วยรถบรรทุก (ส่วยสติ๊กเกอร์) ยื่นต่อนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร และนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เพื่อหารือร่วมแก้ปัญหาส่วยรถบรรทุก
นายอภิชาติ เปิดเผยว่า ขอบคุณนายวิโรจน์ที่เปิดโอกาสให้สหพันธ์การขนส่งฯ ยื่นเรื่องการจ่ายเงิน ทุกขบวนการที่อยู่ในพื้นที่ประเทศไทย ประเด็นส่วยมีมาตั้งแต่ปี 2539 และพัฒนาเพิ่มความรุนแรงจนกระทั่งปีนี้ สำหรับพัฒนาการของสติ๊กเกอร์ เริ่มจากสื่อไอทีวีแอบถ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเงินริมถนน
ก่อนจะพัฒนาเป็นแผ่นสติ๊กเกอร์เพื่อแสดงสัญลักษณ์ของแต่ละเจ้า แต่ละองค์กรเพื่อเคลียร์ทางในการทำผิดกฎหมายได้อย่างโจ๋งครึ่ม เดิมทีมีเพียง 4-5 ป้าย แต่ปัจจุบันมีมาก 40-50 ป้าย ที่ผ่านมาสหพันธ์การขนส่งฯ ได้ร้องเรียนมาทุกกระบวนการตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม และตำรวจทางหลวง
อย่างไรก็ตาม รถบรรทุกในสังกัดสหพันธ์การขนส่งฯ มีจำนวนราว 400,000 คัน ซึ่งมีมติว่าจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย แต่เราสู้สิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐกดดันไม่ได้ บางครั้งถูกข่มขู่ โดยเรื่องส่วยเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อยไปจนถึงระดับสูง เชื่อว่าสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาการผู้บังคับการตำรวจทางหลวง คงหาข้อมูลได้ไม่ยาก
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า แม้ขณะนี้นายวิโรจน์จะไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่มีการหยิบยกปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องการขนส่ง ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ หากการขนส่งไม่ราบรื่นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะต้องขนถ่ายไปยังภูมิภาคต่างๆ อาจต้องติดขัด หากมีระบบส่วยต้นทุนค่าขนส่งก็จะสูงขึ้น
“วันนี้เราพบแสงสีส้มที่ปลายอุโมงค์ ฝนกำลังตกชะล้างสิ่งสกปรกในประเทศไทยให้หมดจด”
ส่วนความมั่นใจเรื่องการเคลียร์ปัญหาส่วยทั้งขบวนการ อยู่ที่ว่าคนทำงานจะทำได้จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีแต่คนหลอกลวงเรา ปัญหาเรื้อรังในระยะเวลานานจะต้องใช้เวลา อย่างน้อยวันนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้น
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนตั้งเป้าไปที่ตำรวจทางหลวง นอกจากนี้ยังมีตำรวจภูธร หรือตำรวจในพื้นที่ที่ดูแลการจราจรบางท่านกระทำการดังกล่าวอยู่ “ขอบอกว่าเลิกเถอะ” มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท คิดเป็น 10% ของการทุจริตในประเทศไทย
โดยวาระสำคัญที่จะประชุมวันนี้คือ สืบสาวราวเรื่องหาเบาะแสที่เกี่ยวพันกับข้าราชการ กำหนดท่าทีในการเข้าให้ข้อมูลกับสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ หวังว่าท่านจะเข้ามาปราบปรามส่วยให้สิ้นซาก ทั้งนี้ต้องทบทวนกฎหมายที่บังคับใช้อย่างไม่เป็นธรรมไปพร้อมกันด้วย นำเทคโนโลยีการชั่งน้ำหนักขณะรถวิ่งมาใช้อย่างจริงจัง ยกเลิกการซื้อขายตำแหน่งและยกเลิกระบบตั๋วให้ได้ เพื่อให้การคอรัปชั่นหมดไปอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ นายอภิชาติ ยังฝากถึงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ขอให้ช่วยสนับสนุนการตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า เนื่องจากประเทศไทยจมปรักมาเกือบ 10 ปีแล้ว