เปิดรูปปัจจุบัน "ด.ญ.ยิ้มไม่ออก" เล่ายุคมืดมนในโรงเรียน ที่แม้แต่พ่อ-แม่ยังไม่รู้

Home » เปิดรูปปัจจุบัน "ด.ญ.ยิ้มไม่ออก" เล่ายุคมืดมนในโรงเรียน ที่แม้แต่พ่อ-แม่ยังไม่รู้
เปิดรูปปัจจุบัน "ด.ญ.ยิ้มไม่ออก" เล่ายุคมืดมนในโรงเรียน ที่แม้แต่พ่อ-แม่ยังไม่รู้

 โตเป็นสาวแล้ว! เปิดรูปปัจจุบัน “เด็กหญิงยิ้มไม่ออก” เล่ายุคมืดมนในโรงเรียน โดนแกล้งยิ่งกว่าในหนัง

“Tayla Clement” หญิงสาวที่ปัจจุบันอายุ 26 ปี เกิดและเติบโตในนิวซีแลนด์ ป่วยด้วยโรคโมเบียส (Moebius) ซึ่งเป็นโรคทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นได้ยาก จากทารกแรกเกิด 50,000-500,000 คน จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะป่วยด้วยโรคนี้โดยเส้นประสาทบนใบหน้าที่ยังไม่พัฒนา ส่งผลให้มีอาการอัมพาตใบหน้าในระดับต่างๆ กัน การเคลื่อนไหวของดวงตาจำกัดและอาจมีปัญหาในการพูด กลืน และเคี้ยวด้วย

แม้ว่าเด็กที่เป็นโรคโมเบียสจะไม่มีปัญหากับพัฒนาการทางสติปัญญา แต่พวกเขาอาจเผชิญกับความท้าทายในสถานการณ์ทางสังคม เนื่องจากความยากลำบากในการแสดงอารมณ์ผ่านการแสดงออกทางสีหน้า ทำให้ผู้คนอาจเข้าใจผิดว่าจริงจังเกินไป หรือกำลังอารมณ์ไม่ดี เช่นเดียวเคลเมนท์ ที่โรคนี้ทำให้เธอไม่สามารถยกมุมปากยิ้มได้

เคลเมนท์บอกว่า นับตั้งแต่จำความได้เธอก็ถูกรังแกมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก “มันเริ่มต้นด้วยการกลั่นแกล้งด้วยวาจา การถูกบอกว่าฉันน่าเกลียดหรือไร้ค่า หรือถูกโดดเดี่ยวและไม่มีเพื่อน”

สิ่งต่างๆ แย่ลงเมื่ออายุ 11 ขวบ เธอเข้ารับการผ่าตัดใหญ่เพื่อพยายามแก้ไขความสามารถในการยิ้ม ในระหว่างการผ่าตัด 9 ชั่วโมง แพทย์ได้เอาเนื้อเยื่อจากต้นขาขวาของเธอ มาฝังไว้ตรงมุมปากและขมับของเธอ “แนวคิดของการผ่าตัดคือเมื่อฉันบีบกรามของฉัน เนื้อเยื่อที่ปลูกฝังจะดึงมุมของ ปากจะถูกยกขึ้นเพื่อเลียนแบบรอยยิ้มปกติ”

เธอคิดกับตัวเองในตอนนั้นว่า “ในฐานะเด็กหญิงอายุ 11 ขวบ หากฉันยิ้มได้ ฉันคงมีเพื่อน และจะไม่ถูกรังแกอีกต่อไป ฉันก็เลยรีบคว้าโอกาสนี้ไว้” อย่างไรก็ดี การผ่าตัดไม่ประสบผลสำเร็จ ส่งผลให้เคลเมนท์มีแผลเป็น และใบหน้า “เสียหายยับเยิน” กว่าเดิม

หลังการผ่าตัดการกลั่นแกล้งก็รุนแรงขึ้น เธอกล่าวว่านอกเหนือจากการเรียกชื่อล้อเลียนที่น่ารังเกียจของแล้ว นักเรียนคนอื่นๆยังผลักเธอเข้าไปในล็อคเกอร์ ฉีกกระเป๋าเป้ และโยนข้าวของของเธอลงบนพื้น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยบอกพ่อแม่เลย “ยังมีหลายสิ่งที่ฉันไม่อาจบอกพวกเขาได้ เพราะฉันไม่อยากให้พวกเขารู้สึกเศร้าหรือเสียใจ พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาสามารถทำอะไรบางอย่างได้ แต่จริงๆ แล้วพวกเขาทำไม่ได้”

กระทั่งในที่สุดเธอก็ค้นพบความหลงใหลของตนเอง เธอเป็นแฟนกีฬามาโดยตลอด โดยเฉพาะรักบี้ ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในนิวซีแลนด์ ในเดือนมีนาคม 2023 เธอจึงเริ่มสร้างคอนเทนต์ลงโซเชียลฯ เกี่ยวกับรักบี้และการแข่งรถ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทีมรักบี้มืออาชีพของนิวซีแลนด์เปิดโอกาสให้เธอสัมภาษณ์ผู้เล่นและดาราเป็นครั้งแรก

เคลเมนท์ยังใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อเชื่อมต่อกับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ หรือมีความพิการอื่นๆ ภารกิจของเธอคือการให้ความรู้แก่ผู้อื่นเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติต่อคนหนุ่มสาวที่ด้อยโอกาส ทั้งในสนามกีฬาและในชีวิตประจำวัน “ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ตอนนั้นฉันต้องการคนแบบฉันจริงๆ… การได้ช่วยเหลือผู้อื่นในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สมบูรณ์แบบ”

แม้จะผ่านช่วงเวลาอันมืดมน แต่เคลเมนท์กล่าวว่าเธอเกิดมาพร้อมกับกลุ่มอาการโมเบียส และการไม่สามารถยิ้มได้กลายเป็น “ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ทุกคนมีความแตกต่างกัน พร้อมทั้งบอกว่า “ฉันแค่ยิ้มในแบบของตัวเอง”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ