เปิดบันทึกรายงานประชุม คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 และ 501 สวนทางคำชี้แจง มีชัย ฤชุพันธุ์ ปมนับรวมวาระนายกฯ 8 ปีประยุทธ์
วันที่ 8 ก.ย. 2565 จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมปรึกษากรณีประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่ หรือไม่
โดยมีคำสั่งให้ เลขาธิการสภาผู้แทนพราษฎร จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ครั้งที่ 501 วันอังคารที่ 11 ก.ย.2561 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองบันทึกการประชุม ครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 ก.ย. 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมตรวจทานแล้ว โดยไม่มีการแก้ไข ทั้งนี้ ให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันอังคารที่ 13 ก.ย. 2565 และกำหนดนัดพิจารณาคดีครั้งต่อไปในวันพุธที่ 14 ก.ย. 2565 นั้น
ในโลกออนไลน์ มีการแชร์ เอกสารบันทึกรายงานการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 ก.ย. 2561 มีการหารือเกี่ยวกับการนับรวมระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯตามรัฐธรรมนูญ 2560
โดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ในฐานะประธานกรรมการ ได้สอบถามที่ประชุมว่า ผู้ที่เป็นนายกฯอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้บังคับสามารถนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯดังกล่าว เข้ากับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่
นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง กล่าวว่า หากนายกฯที่ดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้บังคับ เมื่อประเทศไทยยังคงมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ก็ควรนับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว รวมเข้ากับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ด้วย
นายมีชัย กล่าวว่า เมื่อพิจารณาบทเฉพาะกาลในมาตรา 264 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ให้คณะรัฐมนตรีบริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ เป็นคณะรัฐมนตรีตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้จะเข้ารับหน้าที่ และให้นำความในมาตรา 263 วรรคสาม มาใช้บังคับแก่การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีโดยอนุโลม
“การบัญญัติในลักษณะดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า แม้จะดำรงตำแหน่งนายกฯอยู่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ก็สามารถนับรวมระยะเวลาดังกล่าว รวมกับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ซึ่งเป็นการนับรวมระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ต้องมีระยะเวลาไม่เกิน 8 ปี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือเรียกให้นายมีชัย ชี้แจง โดยในช่วงท้ายของการชี้แจง นายมีชัย ระบุถึงกรณีมีการเผยแพร่เอกสารบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่ 500 วันที่ 7 ก.ย. 2561 ว่า ส่วนที่เกี่ยวกับคำกล่าวของข้าพเจ้า ขอเรียนว่า เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน สรุปตามความเข้าใจของผู้จด กรธ.ยังมิได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น เพราะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย และ กรธ.ได้ประกาศสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ ในวันที่ 12 ก.ย. 2561 ความไม่ครบถ้วนดังกล่าว อาจทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนได้ มีข้อผิดพลาดอยู่หลายประการ
รายงานการประชุมดังกล่าวจึงยังไม่อาจใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานเป็นข้อยุติได้ กรธ.ได้ตระหนักในเรื่องนี้ จึงได้กำหนดให้พิมพ์ข้อความไว้ที่หน้าปกรายงานการประชุมทุกครั้งว่า บันทึกการประชุมนี้ กรธ.ยังไม่ได้รับรอง ผู้ใดนำไปใช้หากเกิดความเสียหายใดๆ ผู้นั้นรับผิดชอบเอง
นอกจากยังมีการแชร์ เอกสารบันทึกรายงานการประชุม กรธ.ครั้งที่ 501 โดยระเบียบวาระที่ 2 รับรองบันทึกการประชุม ระบุ คณะกรรมการมีมติรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่ 497 วันอังคารที่ 28 ส.ค.2561 ถึงครั้งที่ 500 วันศุกร์ที่ 7 ก.ย. 2561 ซึ่งเท่ากับว่าที่ประชุมได้รับการรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ 500 แล้ว และไม่ตรงกับสิ่งที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. ทำเอกสารชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ