Asus เปิดตัว Zenfone 12 Ultra อย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ โดยมาเร็วกว่ากำหนดการเปิดตัวรุ่นก่อนหน้าที่มักจะอยู่ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม โดยในรอบนี้ Zenfone 12 Ultra มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลายจุดเช่น
หัวใจหลักของ ASUS Zenfone 12 Ultra
ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite จับคู่กับ RAM LPDDR5X สูงสุด 16GB และพื้นที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 สูงสุด 512GB ชิปใหม่นี้ให้ประสิทธิภาพ CPU สูงขึ้น 45%, GPU เร็วขึ้น 40% และ NPU ดีขึ้น 40%
เพิ่มประสิทธิภาพของ NPU ที่เพิ่มขึ้นนี้มีความสำคัญ เนื่องจากฟีเจอร์เสริมจาก Asus ใช้ AI จำนวนมาก ทั้งแบบ On-device และ Cloud AI Zenfone 12 Ultra มาพร้อมโมเดล Llama 3 8B จาก Meta ซึ่งทำงานบนอุปกรณ์และใช้สำหรับการสรุปข้อความคุณภาพสูง AI Call Translator 2.0 ก็ทำงานบนอุปกรณ์เช่นกัน โดยเป็นการแปลเสียงแบบเรียลไทม์สำหรับแอปโทรศัพท์เริ่มต้น
และแอปส่งข้อความบุคคลที่สามที่รองรับการโทร VoIP แอป Recorder มีคุณสมบัติ AI Transcript 2.0 พร้อมการระบุผู้พูดหลายคน การสรุป และการแปล นอกจากนี้ยังสามารถสรุปบทความและเอกสารได้อีกด้วย
สเปกกล้อง ASUS Zenfone 12 Ultra
กล้องหลักใหม่ใช้เซ็นเซอร์ Sony Lytia-700 แทน IMX890 การอัปเกรดที่สำคัญคือระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบไฮบริดกิมบอล 6 แกน รุ่นที่ 4 ซึ่งสามารถแก้ไขการเคลื่อนไหวได้ ±5° ซึ่งเป็นการปรับปรุง 66% เมื่อเทียบกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวของ Zenfone 11 Ultra (รุ่นที่ 3)
กล้องเทเลโฟโต้ 32MP มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอลเช่นกัน (ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพ) และมีซูมแบบออปติคอล 3 เท่า และซูม HyperClarity 10-30 เท่า เหนือขึ้นไปเป็นกล้องอัลตร้าไวด์ 120° ด้านหน้ามีกล้องเซลฟี่ใช้เซ็นเซอร์ RGBW 32MP และเลนส์ 90°
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจของ ASUS Zenfone 12 Ultra
Asus Zenfone 12 Ultra มีจอแสดงผล OLED ขนาด 6.78 นิ้ว (Samsung E6) ซึ่งคล้ายกับจอแสดงผลของปีที่แล้ว เป็นแผง LTPO ที่มีอัตราการรีเฟรช 1-120Hz และมีตัวเลือก 144Hz สำหรับเกมที่รองรับ มีความสว่างสูงสุด 2,500 nits และป้องกันด้วย Gorilla Glass Victus 2
โทรศัพท์มาพร้อมแบตเตอรี่แบบ Dual-cell 5,500mAh รองรับการชาร์จแบบมีสาย 65W และไร้สาย 15W (Qi 1.3) การชาร์จแบบมีสายใช้เวลา 39 นาทีจาก 0% ถึง 100% เมื่อชาร์จเต็มแล้ว แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 26 ชั่วโมง
ASUS Zenfone ยังคงเป็นหนึ่งในโทรศัพท์ไม่กี่รุ่นที่ยังคงมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. โทรศัพท์ยังมีเทคโนโลยี Dirac Virtuo for Headphones ซึ่งใช้งานได้กับหูฟังแบบมีสายและไร้สาย หรือเลือกใช้ลำโพงสเตอริโอแบบ Multi-magnet
Asus ใช้อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% สำหรับเฟรม และกระจกรีไซเคิล 22% สำหรับหน้าจอ มีสามสีให้เลือก ได้แก่ Sage Green, Ebony Black และ Sakura White เช่นเคย โทรศัพท์ได้รับการจัดอันดับ IP68 สำหรับการป้องกันฝุ่นและน้ำ
ในด้านการเชื่อมต่อ เป็นโทรศัพท์ 5G สองซิมพร้อมถาดที่ใส่ nano-SIM สองซิม อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มี eSIM ด้วย ซึ่งสะดวกกว่าเมื่อเดินทาง
Asus Zenfone 12 Ultra เปิดตัวแล้ววันนี้ในยุโรป ไต้หวัน และฮ่องกง ในยุโรป (ยังไม่วางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร) แต่ราคายุโรปจะอยู่ 1,000 – 1,100 ยูโร (ประมาณ 34,xxx – 38,xxx บาท) ทั้งนี้ Asus จะเปิดตัวรุ่นใหม่ในญี่ปุ่นด้วย โดยจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้ แต่สำหรับประเทศไทย ไม่ได้นำรุ่นนี้เข้ามาทำตลาด
สเปกของ ASUS Zenfone 12 Ultra
คุณสมบัติ |
ASUS Zenfone 12 Ultra |
ขนาด |
163.8 x 77 x 8.9 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
220 กรัม |
หน้าจอ |
6.78” OLED (Samsung E6), LTPO 1-120Hz (144Hz in games), 2500 nits, ใช้กระจกแบบ Gorilla Glass Victus 2 |
มาตรฐานกันน้ำ |
IP68 |
CPU |
Snapdragon 8 Elite |
RAM |
Up to 16GB LPDDR5X |
ความจำในตัว |
Up to 512GB UFS 4.0 |
Wi-Fi |
802.11 a/b/g/n/ac/6e/7 Tri Band |
Bluetooth |
5.4 |
5G |
Dual-SIM, eSIM |
กล้องหน้า |
32MP RGBW sensor, 90° lens |
กล้องหลัง |
50MP (Sony Lytia-700), 6-axis gimbal stabilizer, |
แบตเตอรี่ |
5500mAh (dual-cell) |
ระบบชาร์จไฟ |
65W แบบสาย, 15W แบบไร้สาย (Qi 1.3) |
สี |
Sage Green, Ebony Black, Sakura White |
อื่นๆ |
ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ,รองรับ Dirac Virtuo, stereo speakers,วัสดุทำจากaluminum frame รีไซเคิล 100% , กระจกแบบรีไซเคิล 22% |