“เบิ้ล ปทุมราช” เล่าโมเมนต์ แฟนแอร์โฮสเตจบินมาเซอร์ไพรส์ -เปิดเหตุผลสุดพีก ไปเฝ้าเมีย “ก้อย ห้วยไร่

Home » “เบิ้ล ปทุมราช” เล่าโมเมนต์ แฟนแอร์โฮสเตจบินมาเซอร์ไพรส์ -เปิดเหตุผลสุดพีก ไปเฝ้าเมีย “ก้อย ห้วยไร่


“เบิ้ล ปทุมราช” เล่าโมเมนต์ แฟนแอร์โฮสเตจบินมาเซอร์ไพรส์ -เปิดเหตุผลสุดพีก ไปเฝ้าเมีย “ก้อย ห้วยไร่

“เบิ้ล ปทุมราช” เล่าโมเมนต์ แฟนแอร์โฮสเตจบินมาเซอร์ไพรส์ -เปิดเหตุผลสุดพีก ไปเฝ้าเมีย “ก้อย ห้วยไร่”

เป็นอีกหนึ่งคู่ที่รักห่างไกล สำหรับนักร้องขี้เล่น เบิ้ล ปทุมราช กับแฟนสาวนอกวงการ แครี่ ที่ตอนนี้ฝ่ายหญิงทำงานเป็นแอร์โฮสเตจ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นานๆทีจะได้เจอกัน เพราะตัวของเบิ้ลเองก้ทำงาน มีคอนเสิร์ตแทบจะทุกวัน แต่ล่าสุดเมื่อช่วงปีใหม่ แฟนสาวบินมาเซอร์ไพรส์หนุ่มเบิ้ลถึงที่เมืองไทย เลยได้มีโอกาศสได้ใช้ช่วงพิเศษด้วยกัน5วัน โดยหนุ่มเบิ้ลเล่าว่า “คือเขาได้รับตำแหน่ง การงานของเขาคือแอร์โฮสเตส เขาก็ไม่ได้มีแพลนที่จะมาหาเรา ผมก็ทำใจไว้แล้วว่าจากที่เจอกันน้อยก็จะเจอกันน้อยมากไปอีก เพราะด้วยการที่อยู่คนละประเทศ งานก็คนละทาง เราไปคอนเสิร์ตทุกวัน น้องก็บินทุกวัน เราก็ไม่คิดว่าน้องจะมาเซอร์ไพรส์โดยการที่อยู่ดีๆ ก็โผล่มาเลยแล้ววันนั้นก็เป็นวันที่คุณแม่มาจากต่างจังหวัดด้วย แล้วอยู่ดีๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาจากหน้าประตู แต่ผู้จัดการจะรู้นะ แต่ไม่บอกเรา”

เราเอะใจไหมว่าน้องเขาหายไปช่วงหนึ่ง?
“ด้วยเวลาที่เราคุย LINE กันมันจะเหมาะเจาะ เพราะเหมือนเที่ยงคืนของที่นี่ เขาก็เพิ่งจะ 6 โมงเย็น ผมเลยไม่สามารถรู้ว่าเขาจะบินมาเวลาไหน”

เขาหวงเราด้วยไหม ช่วงนี้ก็ถอดเสื้อบ่อย?
“คือไม่ครับ เรื่องถอดเสื้อเรามีกลุ่มแฟนคลับหลายๆ ที่ เราเล่นไอจี แฟนเพจ Facebook เอง Twitter ก็จะมีกลุ่มของเราอีกกลุ่มนึง เป็นกลุ่มมาจากช่างแต่งหน้า จากนักข่าว พอเราไม่ลง เขาก็มาแคปขอเราจากไลฟ์สดไปลงอยู่แล้ว ก็เลยอ่ะเราลงให้ดูไปเลย”

คือแสดงว่าแต่ละแพลตฟอร์มลงแตกต่างกัน?
“ใช่ครับ”

แล้วแฟนหวงเราแค่ไหน?
“ไม่หวงครับ ถ้าเราไม่อ้วนก็พอแล้ว เขาไม่เคยทักผมว่าถอดทำไม แต่เขาจะทักผมว่าวันนี้เธอลงพุงนะ มีห่วงยางนะ แต่ตอนนี้ช่วงนี้บอดี้มันโอเคผมก็ไปคลินิกบ่อย เขาก็ดูแลเราเรื่องบอดี้ด้วยทั้งภายในภายนอก ก็เลยคืนกำไรตรงนี้ให้กับแฟนคลับทุกคน?

ดูแลเขายังไงบ้าง?
“ก็ดูแลพาไปเที่ยว เท่าที่เราจะทำได้ เพราะว่าเราทำงานทุกวัน แต่เราก็อาจจะเปลี่ยนแผนงาน เราจะวางตาราง ก็จะพาเที่ยว และก็ยืมเงินเขา7-8พัน ให้เขาเป็นคนจ่ายพร้อม เพราะเราพาเที่ยวแล้ว เรื่องจริงครับ เป็นไกด์ครับ คือเป็นแฟนที่ดี เป็นแฟนที่งกแต่ว่าให้ใจ”

พอนานๆ ทีมาเจอกันความรู้สึกยังไง?
“ถ้าพูดในความคิดถึงมันแน่นอน คนเรามันไม่ได้เจอกันนานก็คิดถึง แต่พอบางทีมันไม่ได้เจอเลยมันจะลืมหน้ากันนะครับ ผมก็ไปคลินิกบ่อยหน้าก็เปลี่ยนทุกปี ก็กลัวเขาจะลืมหน้าผม”

แล้วเขามาเซอร์ไพรส์แบบนี้เราก็ไม่ได้เตรียมตัวต้อนรับ?
“ก็ต้อนรับ แต่อาจจะไม่ได้จัดพิธีบวงสรวงขนาดนั้น ก็ต้อนรับแบบพ่อแม่ทำกับข้าวให้”

พ่อแม่ว่ายังไงบ้างได้เจอว่าที่ลูกสะใภ้?
“โหว่าที่ลูกสะใภ้เลยหรอ พอข่าวนี้ออกไปก็จะรีบไปหาเงินไปหมั้น(หัวเราะ) คือพ่อแม่ก็โอเคครับ เราไม่ได้มองหน้าที่การงานว่าหน้าที่การงานเขาดีหรือเหมาะสมกับเรา เราไม่ได้มองว่าเราเป็นดารานักร้องว่าจะเลือกคนที่มาเป็นแฟนจะต้องอยู่ตำแหน่งไหนยังไง ซึ่งน้องกับผมก็โตมาด้วยกันตั้งแต่น้อง 17 ตอนนั้นผมก็ 21 ปี ตอนนี้ก็ 4-5 ปีแล้ว ความรู้สึกมันอาจจะมีกระทบกระทั่งกันบ้างเหมือนลิ้นกับฟัน แต่สิ่งที่มันมีความสุขคือการคุยกันรู้เรื่อง แล้วเหมือนน้องเขาเป็นคนใจบุญ พอเราเป็นคนดีก็เลยลงเอยกันครับ”

ด้วยความที่มันไกลกัน มีปัญหาเรื่องความไว้ใจความเชื่อใจ?
“คือช่วงแรกๆ น่าจะเป็นปัญหาหลักเลยครับ มาเจอกันมีความสุขอยู่ดี หนึ่งเดือนไปอีกแล้วอีกห้าหกเดือน คือบางทีเราเห็นคนอื่น พี่ก้อง (ห้วยไร่) กับพี่เบล ไม่แปลกเลยที่ผมต้องไปเฝ้าเมียพี่ก้องทุกวัน เพราะผมคิดถึงแฟนตัวเอง”

เห็นบอกเมียเขาก็เหมือนเมียเรา?
“คือผมพูดเฉยๆ ผมไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น”

แต่มองแฟนเขาแล้วนึกถึงแฟนเรา มันแทนกันได้ใช่ไหม?
“แทนได้ในเรื่องของความรู้สึก พอมองแฟนพี่ก้อง เราก็กลับไปช่วยตัวเอง (หัวเราะ) ไปเยียวยาตัวเองจากความรู้สึกว่าเราก็รู้สึกว่า เฮ้ยเรา ก็มีพี่สาวมีพี่ชายนะ”

แล้วอย่างนี้มันจะแก้ปัญหายังไงให้รู้สึกว่าตัวไกลแต่ใจใกล้กัน?
“คือยุคนี้มันเป็นยุคสมัยที่ทุกแพลตฟอร์มมันสามารถเห็นหน้ากันได้อยู่แล้ว มันง่ายที่ว่าการสื่อสารมันดีขึ้น เพียงแต่การสัมผัสการอยู่ใกล้มันไม่ได้เพอร์เฟ็กต์”

จากที่เขาได้ติดตามการแสดงบนเวทีของเรา เขามีคอมเมนต์ยังไงบ้าง?
“ส่วนใหญ่เขาจะหัวเราะ แต่ไม่ได้มีดราม่าอะไรเลย เขาจะหัวเราะ แต่การไปเจอแฟนคลับผู้หญิงเยอะหรือการไปถ่ายละครกับผู้หญิงอันนี้ไม่ได้มีปัญหาเลย ส่วนใหญ่จะเป็นการหัวเราะว่าวันนี้ฉันไปถ่ายกับคนนี้คอนเทนต์เป็นอย่างนี้อ่ะ”

อย่างเรื่องระยะทางเราอาจจะชินกันแล้ว แต่เรามีข้อตกลงไหมว่าหนึ่งเดือนต้องไปเจอกันกี่ครั้ง?
“ข้อตกลงผมว่ามันต้องตามจังหวะชีวิต เพราะว่าถ้าเกิดเรากำหนดไว้อย่างเช่นกุมภาพันธ์เราต้องเจอกันนะวาเลนไทน์ แล้วถ้าเกิดกุมภาพันธ์ผมมีงานเต็มเดือนล่ะ ผมก็ต้องอยากทำงานก่อน เพราะว่าเราอายุยังน้อย เรายังไม่สามารถวางบางอย่างเพื่อไปซัพพอร์ตบางอย่าง ผมจะบอกเขาเสมอว่าเราต้องให้เปอร์เซ็นต์ในการสร้างฐานตัวเองก่อนในช่วงที่เรากำลังเป็นวัยรุ่นที่เราสร้างเงินสร้างงานได้ เพื่อที่เราในอนาคตจะได้มีเงินวางแผนในเรื่องของชีวิตคู่ แล้วเราก็จะได้มีครอบครัวที่ดีได้ เราต้องสร้างหลักสร้างฐานตอกเสาเข็มให้แข็งแรงก่อน ตอนนี้เป็นอายุที่พวกเราจะต้องโฟกัสกับงาน”

แสดงว่าเรื่องงานแต่งก็ไม่ได้มีเร็วๆ นี้?
“ยังครับ ยังอีกไกล”

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ