หลังจากที่ปล่อยให้บรรดาขาเม้าท์และนักสืบโซเชียลฯ สงสัยข้องใจกันมานาน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ชวนลุ้น ระหว่าง เบสท์ท์-รักษ์วนีย์ คำสิงห์ และ แพทริค ปวริศ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ แพทริค SPD เจ้าของฉายา แพทริคลูกเจ้าสัว กันแน่!? ถึงได้ทำให้มีการตัดสินใจลบคอนเทนต์บนโลกโซเชียลฯ แถมยังอินฟอลโลวอินสตาแกรม

ล่าสุด! รายการ “แฉ” ทางช่อง GMM25 ได้เชิญ เบสท์ท์ รักษ์วนีย์ มาร่วมนั่งพูดคุยและให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อนดังกล่าว เพื่อเคลียร์ชัดทุกข้อสงสัยแบบหมดเปลือก ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ยอมรับว่า…

“เรื่องรูปในไอจีหนูไม่ได้ลบ คือหนูลงกับเขารูปเดียว แล้วก็มีกับเพื่อนด้วย แฟนคลับด้วย แต่เราเอาออก ส่วนสถานะก่อนหน้านี้ยังไม่ได้เป็นแฟน เป็นคนคุย พี่เขาเข้ามาจีบ หนูไม่เคยจีบผู้ชายก่อนนะ คือมันเกิดจากเราไปถ่าย YouTube ด้วยกัน ไม่ได้มีใครชงหรือว่าอะไรนะ บังเอิญวันนั้นหนูไปถ่ายกับพี่สไปร์ท SPD แล้วบังเอิญเขาอยู่กับพี่แพทริค แล้วเจอกันไม่ได้มีใครชงค่ะ ไม่มีพ่อสื่อแม่สื่อคือบังเอิญเจอกันเฉยๆ”

ปิ๊งกันเอง ?
“ใช่ค่ะ แลกไลน์คุยกัน”

“คือทำคอนเทนต์ด้วยกันมีแค่ประมาณ 3 คลิป แต่ว่าคนเชียร์ตั้งแต่คลิปแรก พี่ๆ ดาราในกองก็ยุกันหมด แต่ว่ามันก็มีเหตุผลบางอย่าง ว่าเราไม่ไปต่อ เป็นเหตุผลของหนู”

วันนี้ต้องมาด้วยกัน ?
“จริงๆ วันนี้พี่มดดำติดต่อมาก่อนที่จะมีข่าวพ่อด้วยซ้ำ แต่ว่าเราติดคิวถ่ายละคร ตอนนั้นเบสท์คุยกับพี่แพทริคอยู่ แล้วก็พี่อยากไปออกรายการทีวีไหม เพราะเขาไม่เคยมาออก หนูคลั่งรัก เราก็รักเอย เราก็บอกพี่มดหนูอยากให้ผู้ชายมาออกด้วย แม่เชียร์ทุกคน แต่ตอนจบเบสท์พูดเองนะแม่ไม่เกี่ยว แม่รักผู้ชายเบสท์ทุกคน แต่พอเลิกกันปุ๊บแม่ไม่เกี่ยวนะ”

มันเกิดอะไรขึ้นแรกๆ ก็เห็นยังดีกันอยู่ ?
“หนูเป็นคนอันฟอลโลว์เอง แต่หนูมีเหตุผลส่วนตัว คือหนูเป็นคนคิดวิเคราะห์อะไรรอบคอบแล้ว เพราะเราเจอดราม่ามาขนาดนี้ ก่อนที่จะทำอะไรเราคิดแล้ว คือเราทบทวนแล้วเราไม่ไปต่อจริงๆ แต่คนคุยก่อนหน้านี้ เลิกกันเราก็ไม่ได้อันฟอลโลว์นะ คือมันแล้วแต่เคสจริงๆ”

เขาทำอะไรให้ ?
“เราเจอหนักมาเยอะ ทำอะไรเราก็ตัดสินใจแล้ว”

แสดงว่าจบไม่ดี ?
“ก็ไม่ดี แต่ว่าในอนาคตอาจจะเป็นเพื่อนกันได้ คือหนูไม่เป็นเพื่อนกับแฟนเก่า แต่ว่าคนนี้ยังไม่ได้เป็นแฟนกันไงคะ มันก็อาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ หนูไม่ได้งอน แต่มันมีเรื่องบางอย่าง”

เขาคุยกับคนอื่น ?
“ไม่รู้ ไม่บอก”

เขาเจ้าชู้ ?
“ไม่รู้ ไม่บอก”

จับได้ ?
“แต่เอาจริงๆ นะ การที่เป็นคนคุยหนูแมนอยู่แล้วนะ คนคุยไม่ใช่แฟน เพราะฉะนั้น เขาจะไปคุยกับคนอื่น หรือเขาจะชอบเราน้อยลง มันเป็นสิทธิ์ของเขาเลยนะ คืออันนี้เราแมน แต่มันมีคำพูดบางประโยคที่เคลียร์กันแล้วรู้สึกว่ามันกระทบจิตใจเราเราเสียใจ เราก็คาดหวังว่าเขาดีมากๆ แต่พอบางอย่างมันเข้ามา มันก็ไม่ได้เหมือนที่ทุกคนบอก เราก็คิด เราก็ผิดหวัง ก็เลยอันฟอลโลว์ไป แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะกลับไปฟอลนะเพราะว่าตัดสินใจแล้ว”

“เรื่องที่แฟนคลับผิดหวัง อันนี้หนูอยากจะขอโทษจริงๆ แต่หนูเคยมีประสบการณ์แล้วกับผู้ชายคนเก่า หนูก็ไม่อยากจะจิ้น หรือจะมาขายอะไรอีก รอบหนูขอโทษจริงๆที่ไม่ได้คิดหรือทบทวนให้ดี ครั้งหน้าถ้าหนูมีความรักอีกหนูก็จะเงียบแล้ว”

“หนูเป็นคนจริงจังกับความรัก บางทีหนูอยู่ใกล้ใครแฟนคลับก็จับจิ้นไปหมด ตอนนี้โสดสนิทค่ะ พร้อมเปิดรับคนใหม่ค่ะ มีแนะนำไหมคะ ที่ผ่านมาหนูโสดมาตลอด คือแค่คนคุย ไม่ใช่แฟน”

เขามาง้อบ้างไหม ?
“ไม่ค่ะ หนูก็ปิดกั้น ไม่คุย หนูเป็นคนแบบนี้จริงๆ นะ สมมุติถ้าผู้ชายบางคนไม่ได้ทำร้ายแรงมาก ก็จะเป็นพี่น้องเป็นเพื่อนกันได้ แต่ถ้าบางคนที่กระทำรุนแรงเกิน มันก็ต้องแบบไป แต่อันนี้ก็อย่าไปด่าพี่เขา เบสท์นี่แหละไม่เข็ดเอง คือเราเคยมีประสบการณ์แล้วแต่รีบเอง ด่าหนูดีกว่าค่ะอย่าไปด่าพี่เขา เราปล่อยให้แฟนคลับจิ้น เราปล่อยตัวไปเอง แทนที่มีประสบการณ์จะหยุดไว้”