เนปาลออกใบอนุญาต – เอเอฟพีและ สเตรตส์ไทมส์ เปิดเผยว่า จำนวนนักปีน เขาเอเวอร์เรสต์ ในฤดูกาลนี้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ ขณะที่สำนักงานการท่องเที่ยวเนปาลเกรงว่าจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับปี 2562 ที่การเดินทางติดขัดจนทำให้มีผู้เสียชีวิตบนยอดเขา และยิ่งไปกว่านั้นสภาพอากาศในปีนี้ยังไม่เอื้ออำนวยอีกด้วย
ทางการเนปาลระบุว่าช่วงฤดูใบไม้ผลินี้มีการออกใบอนุญาตปีนเขาเอเวอร์เรสต์เป็นประวัติการณ์ถึง 454 ครั้ง เป็นเวลา 4 ปีหลังจากมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คนบนยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกซึ่งเกิดจากความแออัดยัดเยียด
นายบิกยัน คอยราลา จากสำนักงานการท่องเที่ยวกล่าวว่า นี่เป็นจำนวนใบอนุญาตสูงสุดที่ออกให้ในการพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ และคาดว่าตัวเลขดังกล่าวอาจจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากนักปีนเขาเหล่านี้
ส่วนใหญ่ต้องการด้วยความช่วยเหลือจากไกด์ชาวเนปาล โดยมีนักปีนเขากว่า 900 คนกำลังมุ่งหน้าสู่ยอดเขาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า นี่อาจทำให้เกิดการจราจรติดขัดระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขา ทั้งยังมีเวลาน้อยในการไปถึงยอดเขา เนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
เมื่อปี 2562 ด้วยจำนวนคนที่เยอะมากบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ทำให้ทีมนักปีนเขาต้องรออยู่หลายชั่วโมงในอุณหภูมิที่เยือกแข็งและระดับออกซิเจนที่ต่ำ จนเกิดความเจ็บป่วยและความอ่อนเพลีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย
ส่วนปีนี้จำนวนนักปีนเขาที่ได้รับใบอนุญาตมากที่สุดได้แก่ นักปีนเขาจากประเทศจีนจำนวน 96 คน รองลงมาคือสหรัฐอเมริกา จำนวน 87 คน
ด้าน นายแอง เชอริง เชอร์ปา อดีตประธานสมาคมปีนเขาเนปาล กล่าวว่าสาเหตุที่นักปีนเขาในฤดูกาลนี้มีจำนวนมากเป็นเพราะช่วงปีที่ผ่านไม่สามารถปีนเขาได้ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
บวกกับกฎใหม่ของประเทศจีนที่กำหนดให้เฉพาะนักปีนเขาที่มีประสบการณ์การปีนในระดับความสูงที่ 8,000 เมตรเท่านั้น ด้วยเหตุนี้นักปีนเขาจึงเปลี่ยนเส้นทางมาพิชิตเอเวอเรสต์ในฝั่งเนปาลมากขึ้น
ทีมผู้ชำนาญการปีนเขาเตรียมเส้นทางเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอร์เรสต์และได้ตรึงเชือกไว้ถึงแคมป์ 4 ที่ความสูง 7,924 เมตรแล้ว นายเชอร์ปากล่าวเพิ่มเติมว่าเนื่องจากหิมะตกเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดหิมะถล่ม ปกติแล้วหิมะจะตกในช่วงฤดูหนาว แต่ตอนนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิกลับมีหิมะตกลงมา ซึ่งหิมะที่ตกใหม่จะยังคงอ่อนนุ่มทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดหิมะถล่มมากขึ้นไปอีก
นักปีนเขาชาวเนปาล 3 คนสูญหายขณะกำลังข้ามธารน้ำแข็งคุมบู เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ทางการยุติการกู้ภัยหลังจากสรุปได้ว่าไม่สามารถนำศพขึ้นมาจากรอยแยกลึกบนธารน้ำแข็งได้
ทั้งนี้ เนปาลเป็นที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุด 8 ใน 10 แห่งของโลก และนักปีนเขาต่างชาติต่างแห่กันไปที่ภูเขานั้นทำให้กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของประเทศ รัฐบาลมีรายได้กว่า 4.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 166 ล้านบาท จากใบอนุญาตปีนเขาเอเวอเรสต์ โดยเรียกเก็บนักปีนเขาต่างชาติเป็นเงินคนละ 11,000 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 376,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- นักปีนเขาผู้พิชิต “เอเวอเรสต์” ถึง 10 ครั้ง ถูกพบเสียชีวิตใกล้ “ยอดเขาอันนปูรณะ”
- ชายอินเดียหวนปีนเอเวอเรสต์ พิสูจน์ตัวเองหลังถูกกล่าวหาว่าตัดต่อภาพ
- ชาวเชอร์ปา ทุบสถิติตัวเอง พิชิตยอดเขา เอเวอเรสต์ คนเดียวเป็นครั้งที่ 26