เตือนแล้วนะ! หมู 4 ส่วนนี้ ถูกแค่ไหนก็อย่าโลภ กินเยอะเสี่ยง "เป็นพิษ" ต่อร่างกาย

Home » เตือนแล้วนะ! หมู 4 ส่วนนี้ ถูกแค่ไหนก็อย่าโลภ กินเยอะเสี่ยง "เป็นพิษ" ต่อร่างกาย
เตือนแล้วนะ! หมู 4 ส่วนนี้ ถูกแค่ไหนก็อย่าโลภ กินเยอะเสี่ยง "เป็นพิษ" ต่อร่างกาย

 รู้ไว้ดีกว่า 4 ส่วนของหมู กินเยอะเสี่ยง “เป็นพิษ” ต่อร่างกาย นำพาโรคต่างๆ มาเคาะประตูได้!

การทานหมูดีหรือไม่? คำตอบคือดี หมูอุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน และแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายๆ ประการ ดังนั้นหมูเป็นอาหารที่คุ้นเคยในครัวของหลายครอบครัวใน

แต่การทานหมูมากเกินไป โดยเฉพาะ “บางส่วนของหมู” ควรระมัดระวัง เพราะยิ่งทานมาก ความเสี่ยงในการ “เป็นพิษ” ต่อร่างกายก็ยิ่งสูง และอาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้มากขึ้น ซึ่งรวมถึง 4 สิ่งด้านล่างนี้ด้วย

สันคอหมู

เนื้อส่วนคอหมูเป็นส่วนที่นุ่มและชุ่มน้ำ มักนำมาทำอาหารย่าง ทอด หรือผัด เพราะมีอัตราส่วนไขมันและเนื้อที่สมดุล แต่อาจมีต่อมน้ำเหลืองของหมูติดมาด้วย

ต่อมน้ำเหลืองเป็นส่วนสำคัญในระบบภูมิคุ้มกันของสัตว์ และเนื้อเยื่อรอบๆ อาจมีเชื้อแบคทีเรียและไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคซึ่งการล้างทำความสะอาดก่อนปรุงอาหารนั้นทำได้ยาก ในภาวะปกติปริมาณเชื้อแบคทีเรียและไวรัสเหล่านี้ไม่สูงมาก แต่หากสะสมในปริมาณมากอาจทำให้เกิดโรคและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

นอกจากนี้ เนื้อคอหมูยังมีไขมันสูง หากทานมากเกินไปจะทำให้เสี่ยงต่อการอ้วน โรคหัวใจ และหลอดเลือดจากการแข็งตัวของหลอดเลือด

ไส้หมู

ไส้หมูมีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก วิตามิน B1 วิตามิน B12 และกรดนิโคตินิก รวมทั้งวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ดังนั้นสามารถกล่าวได้ว่า คุณค่าทางโภชนาการของไส้หมูสูงกว่าหลายส่วนในร่างกายของหมู ตามการแพทย์แผนจีนไส้หมูมีรสหวานและมีลักษณะเย็น ช่วยเสริมสร้างม้ามและกระเพาะ ช่วยบำรุงไตและขับพลังที่อ่อนแอ

อย่างไรก็ตาม การทานเครื่องในสัตว์มากเกินไป เช่น ไส้หมู อาจไม่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากมีโปรตีนสูง รวมทั้งไขมันจากสัตว์และคอเลสเตอรอลไม่ดีที่อาจเพิ่มไขมันในเลือด และเพิ่มความเสี่ยงของการแข็งตัวของหลอดเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคหัวใจ เบาหวาน โรคตับ ไขมันในตับ โรคตับอักเสบ โรคเกาต์ หรือโรคไต ควรระมัดระวังในการทาน เพราะอาจทำให้โรคที่เป็นอยู่แย่ลงได้

นอกจากนี้ ไส้หมูยังเป็นที่อยู่อาศัยของเชื้อแบคทีเรียและปรสิตต่างๆ ซึ่งหากไม่ได้รับการทำความสะอาดและปรุงให้สุกดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางเดินอาหาร เช่น การอักเสบของกระเพาะและลำไส้ การอักเสบของถุงน้ำดี การติดเชื้อปรสิตหรือความเสี่ยงในการติดที่สมอง การติดเชื้อในกระแสเลือด อาการท้องร่วง โรคบิด หรืออหิวาตกโรค เป็นต้น

หางหมู

หางหมูมักนำมาทำแกงหรือนำไปตุ๋น เพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้น เนื่องจากหางหมูมีโปรตีน แคลเซียม ธาตุเหล็ก และคอลลาเจนสูง การทานหางหมูสามารถช่วยเสริมพลังเลือด บำรุงกล้ามเนื้อ และข้อกระดูกได้ แต่ไม่ควรทานมากเกินไป โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ อ้วน หรือโรคเกาต์ ควรระมัดระวัง เนื่องจากไขมันในหางหมูเป็นไขมันอิ่มตัวที่อาจทำให้โรคเหล่านี้แย่ลงได้

หลายคนมองหางหมูเหมือน “ยาบำรุงไต” เนื่องจากมีสังกะสีสูง ซึ่งดีต่อพลังงานและช่วยรักษาอาการไตอ่อนแอ เช่น อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือการหลั่งเร็ว อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทานหางหมูเกิน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะการทานมากเกินไปอาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้

ปอดหมู

ปอดหมูเป็นอวัยวะระบบหายใจของหมู ซึ่งทำหน้าที่ขับของเสียและสารหลั่งต่างๆ ออกจากร่างกาย ดังนั้น ปอดหมูอาจมีเมือกเชื้อแบคทีเรีย และปรสิตจำนวนมาก หากหมูเลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาดหรือมีการดูแลที่ไม่ดี นอกจากนี้ ปอดหมูยังมีปริมาณถุงลมสูงซึ่งทำให้ทำความสะอาดได้ยาก

ปอดหมูยังมีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งหากทานในปริมาณมากและเป็นระยะเวลานานอาจเพิ่มคอเลสเตอรอลในเลือด ทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาคอเลสเตอรอลสูง

ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีสามารถทานปอดหมูได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่ต้องเตรียมปอดหมูให้สะอาด โดยการล้างปอดหมูให้สะอาดด้วยน้ำไหลผ่าน เพื่อให้น้ำเข้าไปในถุงลมและลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ควรเลือกซื้อปอดหมูที่สดและสะอาด สีชมพู ไม่ควรซื้อปอดที่มีสีดำคล้ำหรือมีกลิ่นเหม็น

  • ฝาประตูไมโครเวฟ หลังใช้งานแล้วควร “ปิด” หรือ “เปิด” เรื่องนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิด!
  • เผยชัดๆ ส่วนที่สกปรกที่สุดของ “ไก่” เต็มไปด้วยปรสิต แต่หลายคนไม่รู้ และยังกินมันอยู่!

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ