เตือนกันอีกครั้ง น้ำโฮมีโอพาธีย์ลวงโลก รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกีณีน้ำโฮมีโอพาธีย์ ที่ชาวบ้านเชื่อว่า รักษาป้องกันโรคโควิด-19 ได้ โดยโพสต์ข้อความระบุว่า
ช่วงนี้ มี “น้ำโฮมีโอพาธีย์” ที่อ้างว่าใช้รักษาป้องกันโรคโควิด-19 ได้ (ต้องกระแทกขวดกับฝ่ามือ ใส่พลังลงไปด้วยนะ) ออกมาแจกจ่าย-ขายกันหนักมากทั้งที่มันเป็นเรื่องลวงโลกมากๆ ครับ แต่ ก. สาธารณสุข ดันสนับสนุนอยู่ .. ยังไงถ้าใครได้มา ก็ไม่ควรหลงเชื่อ หลงใช้มันนะครับ !!ขอเอาบทความเก่า ที่อธิบายเรื่องนี้ (ตอนนั้น เค้าอ้างเอามารักษาโรคไข้เลือดออก) มาให้อ่านอีกทีนะครับ
“โฮมีโอพาธีย์ เป็น pseudoscience วิทยาศาสตร์ลวงโลก กระทรวงสาธารณสุขไม่ควรสนับสนุนครับ”หลังจากที่เดือนก่อน รู้สึกแย่กับการที่ วช. ให้ทุนสนับสนุนสถาบันการศึกษาหนึ่ง ในการวิจัยลวงโลก เกี่ยวกับ “พลังออร่า” จากร่างกายของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คราวนี้มาเจอว่า กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนให้หน่วยงานของตนคือ กรมการแพทย์แผนไทย วิจัย “ยาโฮมีโอพาธีย์สำหรับป้องกันไข้เลือดออก” แถมจะเอาไปแจกจ่ายด้วย อันนี้หนักเลยนะครับ เพราะนอกจากจะเป็นวิทยาศาสตร์ลวงโลกแล้ว ยังไปยุ่งเกี่ยวกับสุขภาพและการเจ็บป่วยของประชาชนด้วยนะสูตรยาโฮมีโอพาธีย์ ที่ว่านี้ คือ เค้าไปเอาสารจากสมุนไพรฝรั่งชื่อ ยูพาโทเรียม เพอร์ฟอเลียทุม (Eupatorium perfoliatum) มาเจือจางมากๆๆๆ เจือจางด้วยน้ำในสัดส่วน 1:100 จำนวน 200 ครั้ง
(เท่ากับเจือจางเหลือ 1/100 ยกกำลัง 200 เท่า) แล้วอ้างว่า เมื่อหยดใส่ปากแค่ 2-3 หยด จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ 89.9 % นานถึง 3-4 เดือน !!ปรกติแล้ว พืชยูพาโทเรียม เพอร์ฟอเลียทุม เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ไปทางลดไข้ แก้ตัวร้อน เสริมภูมิคุ้มกัน คล้ายๆ ฟ้าทะลายโจร แต่ไม่มีรายงานวิจัยใดๆ บอกว่ามันรักษาหรือป้องกันโรคไข้เลือดออกได้แล้วงงกันมั้ยว่า ถึงสารสมุนไพรตัวนี้จะมีฤทธิ์ป้องกันไข้เลือดออกได้จริง แต่มันถูกเจือจางมากๆๆ ขนาดนั้นแล้ว มันจะออกฤทธิ์เพียงพอได้อย่างไร คำตอบ คือ หลักการเรื่องโฮมีโอพาธีย์นั้นเป็นกลุ่มความเชื่อประหลาด ที่ไม่ใช่เรื่องการเอาสมุนไพรมารักษาโรคโดยตรง แต่คิดว่าการให้สารพวกนี้เข้าไปในปริมาณน้อยๆๆ จะกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ต่อต้านกับโรคได้ คล้ายๆ กับเป็นเรื่องการทำวัคซีนนั่นแหละซึ่งหลักการนี้ ในต่างประเทศหลายประเทศ
เช่น ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสวิตเซอร์แลนด์ ประกาศเรียบร้อยแล้วว่า เป็นเรื่องไร้สาระ หรือเป็นวิทยาศาสตร์เรื่องโลก pseudoscience ที่ห้ามใช้รักษาคนไข้ในประเทศของตนดังนั้น การที่ ก. สาธารณสุขมาส่งเสริมเรื่องที่ลวงโลกเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้อง … แถมการเอามาใช้กับประชาชนจริงๆ ก็ยิ่งเป็นอันตราย เนื่องจากทำให้เกิดความประมาท เข้าใจผิดได้ว่า สามารถป้องกันโรคไข้เลือดออกได้นี่ยังไม่นับว่า ถ้าไปดูในรายงานวิจัยของกรมการแพทย์แผนไทย ที่ทำมาก่อนหน้านี้ ก็จะเจอช่องโหว่เยอะมาก เรื่องความแปรปรวนลำเอียงในด้านตัวอย่างประชากร และความผิดพลาดในการวิเคราะห์ข้อมูล (ขนาดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกจริงๆ เขายังไม่เคลมว่ามีประสิทธิภาพขนาดนี้เลยครับ)สรุปคือ อยากให้กระทรวงทบทวนนโยบายเรื่องนี้นะครับ อย่าสร้างความเสี่ยงให้ประชาชนโดยไม่จำเป็น จากแค่ความเชื่อผิดๆในด้าน pseudoscience แบบนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก Jessada Denduangboripant