เตือนมหันตภัยเอไอ ยอดนักพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เกษียณจากกูเกิ้ล
เตือนมหันตภัยเอไอ – วันที่ 2 พ.ค. บีบีซีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ผู้ให้กำเนิดหนึ่งในสุดยอดปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ประกาศลาออกจากกูเกิ้ล พร้อมเตือนถึงมหันตภัยจากแวดวงการพัฒนาเอไอ โดยยอมรับว่าเอไอกำลังจะมีสติปัญญาที่ชาญฉลาดกว่ามนุษย์ในอีกไม่ช้า
นายจอฟเฟรย์ ฮินตัน อายุ 75 ปี ประกาศลาออกจากกูเกิ้ล โดยให้เหตุผลหลักว่ามาจากอายุที่มากแล้วจึงต้องการเกษียณจากงาน โดยนายฮินตันยอมรับถึงความเสียใจที่ตนเคยมีส่วนร่วมให้กำเนิดและพัฒนาเอไอ เนื่องจากมีความน่ากลัวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเอไอสนทนา หรือแช็ตบ็อต
นายฮินตัน กล่าวว่า ปัจจุบัน เอไอเหล่านี้ยังไม่ได้มีความชาญฉลาดมากไปกว่ามนุษย์ แต่ตนคิดว่าอีกไม่นานก็จะมีสติปัญญามากกว่าแน่นอน
รายงานระบุว่า นายฮินตันนั้นเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่คิดค้นพัฒนาระบบการเรียนรู้อัตโนมัติ (Deep Learning) และระบบโครงข่ายประสาทเทียม (Nueral Networks) ซึ่งเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของการทำงานของเอไอสนทนาอย่าง ChatGPT
นายฮินตันเป็นนักจิตวิทยาปริชาน (กระบวนการรู้คิดทั้งหมดของมนุษย์) และนักวิทยาศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์ กล่าวยอมรับว่า แช็ตบ็อตนั้นกำลังจะมีข้อมูลที่เรียนรู้เกินขีดจำกัดของสมองมนุษย์ในอีกไม่ช้า
“ตอนนี้เราได้เห็นแช็ตบ็อตอย่าง GPT-4 มีความสามารถสูงกว่ามนุษย์มากแล้วในแง่ของความรู้พื้นฐานทั่วไป แม้การเชื่อมโยงด้วยเหตุและผลยังไม่ดีเท่ามนุษย์แต่ก็สามารถเชื่อมโยงขั้นพื้นฐานได้แล้ว หากคำนึงถึงพัฒนาการที่รวดเร็วของเอไอ ก็คาดไว้ได้เลยว่าไม่นานมันจะเก่งขึ้นมาก และนั่นเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องกังวล” นายฮินตัน ระบุ
นักวิทยาศาสต์ชื่อดังคนนี้ ยังเตือนถึงมหันตภัยจากมนุษย์ที่ต้องการนำเอไอเหล่านี้ไปใช้งานในทางเลวร้าย ซึ่งในทางวิทยาศาสตร์นั้นถือไว้ว่าเป็นฉากทัศน์ระดับฝันร้าย
นายฮินตันกล่าวยกตัวอย่าง เช่น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่ส่งกองทัพรุกรานยูเครนั้นอาจอนุญาตให้จักรกลสงครามเอไอสามารถตั้งเป้าหมายรองของตัวเองได้อาจทำให้เอไอกำหนดเป้าหมายว่าต้องการอำนาจเพิ่ม นำไปสู่การดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นให้จงได้
“ผมทำงานด้านนี้มาจนตกผลึกได้แล้วว่าเอไอที่เรากำลังพัฒนากันนั้นแตกต่างไปจากระบบปัญญาของพวกเราเอง”
“พวกเราเป็นระบบชีวภาพแต่เอไอเป็นระบบดิจิตอล ความแตกต่างก็คือ ระบบดิจิตอลนั้นสามารถมีสำเนาของตัวเองที่มีค่าเท่ากันได้ในโลกจริง”
“พูดให้เห็นภาพก็เหมือนกับการที่คุณมีตัวเองอีกหมื่นคนแล้วแต่ละคนเนี่ยเหมือนคุณเป๊ะ หากใครเรียนรู้อะไร หรือทำอะไรได้ขึ้นมาอีก ตัวคุณที่เหลือก็จะได้เรียนรู้และทำได้ขึ้นมาเช่นกัน นี่คือการทำงานของแช็ตบ็อต มันถึงได้รู้เร็วและรู้มากเกินขีดจำกัดของมนุษย์คนหนึ่งๆ”
อย่างไรก็ตาม นายฮินตัน กล่าวย้ำว่า ตนไม่ได้มีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์โจมตีกูเกิ้ล แต่ตรงกันข้ามคือต้องการพูดแต่เรื่องดีๆ ของกูเกิ้ล
ด้านนายเจ็ฟฟ์ ดีน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์กูเกิ้ล กล่าวถึงความเห็นของนายฮินตันว่า กูเกิ้ลมีแนวทางการพัฒนาเอไออย่างมีความรับผิดชอบ โดยกูเกิ้ลยังคงเรียนรู้ที่จะเข้าใจเอไอ สร้างนวัตกรรมที่ฮือฮา และประเมินความเสี่ยงใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง