ดร.ธรณ์ พร้อมทีมงาน ลุยเก็บตัวอย่างสัตว์ทะเล เตรียมรับมือ มวลน้ำมัน ก้อนใหญ่กว่าเกาะเสม็ด 9 เท่า ถึงหาดแม่รำพึง คาดสารเคมีสะสม 3 ปี
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2565 นางพรศรี สุทธนารักษ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมด้วยนายธเนศ มั่นน้อย ผอ.สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 (ชลบุรี) และนายธวัช เจนการ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด ปลัดเทศบาลตำบลเพ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 (ระยอง)
ร่วมกันสังเกตการณ์พร้อมให้การสนับสนุนใช้เรือลากจูงบูมไปกลางทะเล และนั่งเรือพะยูนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อไปดูจัดบริเวณที่คราบน้ำมันที่คาดว่าน่าจะไหลเข้าสู่ชายหาดทะเลและยังเดินทางไปดูจุดบริเวณที่เกิดเหตุการรั่วไหลน้ำมันดิบ ซึ่งห่างชายฝั่งประมาณ 20 ไมล์ทะเล
ต่อมาผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีกิจการพิเศษ ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมงบางเขน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์พร้อมคณะทำงาน ได้เดินทางบริเวณหาดแม่รำพึง จุดที่คาดการณ์ว่าคราบน้ำมันจะขึ้นตรงบริเวณนี้
ผศ.ดร.ธรณ์ กล่าวว่า เท่าที่ทราบกันถึงสถานการณ์น้ำมันรั่ว ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่าคราบน้ำมันได้มีการกระจายตัวเป็นหลายกลุ่ม โดยกลุ่มย่อยของคราบน้ำมันที่แตกตัวออกมาคาดว่าจะเข้าชายหาดตรงบริเวณท่าเรือไออาร์พีซีก่อน ซึ่งมีการเตรียมตัวสกัด โดยใช้บีชบูมสกัดไว้แล้ว
ส่วนกลุ่มมวลน้ำมันที่เป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ที่มีการคำนวณว่าใหญ่เป็น 9 เท่า ของเกาะเสม็ด จะตามเข้ามาส่วนจะเข้ามาตอนไหนเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับลมทะเล แต่ขณะนี้เป็นช่วงที่ลมทะเลสงบจึงอาจจะประวิงเวลาไว้ได้
นอกจากนี้เตรียมเก็บตัวอย่างพื้นดิน พื้นทรายในทะเลก่อนเกิดเหตุที่จะมีคราบน้ำมันมาถึง ซึ่งบริเวณหาดแม่รำพึงนี้มีหอยเสียบเป็นจำนวนมาก ซึ่งคณะประมงได้เก็บตัวอย่างหลายจุดแล้ว และจะไปประมวลผลว่ามีผลกระทบอย่างไรหลังจากมีคราบน้ำมันเข้ามา ซึ่งสารเคมีจะสะสมไปในพื้นทรายหรือปะการัง 2-3 ปี ต้องศึกษาเป็นระยะยาวต่อไป
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด คราบน้ำมันยังขึ้นสู่ชายหาด โดยมีเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน กำลังดำเนินการสกัดคราบน้ำมันที่คาดว่าจะขึ้นมาชายหาดแน่นอน